ซุปเปอร์ริชคาดปีนี้ธุรกิจแลกเงินโต60%

ซุปเปอร์ริชสีส้ม คาดยอดซื้อขายเงินตราปีนี้โต 50-60% รับต่างชาติเที่ยวไทย เล็งลุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 2562

นายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) หรือซุปเปอร์ริชสีส้ม เปิดเผยว่า ยอดการซื้อขายเงินตราต่างประเทศตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน มีมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาท เติบโต 30-35% จากสิ้นปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราที่ก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปี 2560 ที่เติบโตเกือบ 20% โดยเป็นผลมาจากจำนวน นักท่องเที่ยวไทยที่เติบโตมาก คาดว่าปีนี้ยอดซื้อขายเงินตราต่างประเทศจะมีมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท เติบโตสูงถึง 50-60%

สำหรับการผลักดันประเทศเป็นสังคมไร้เงินสดไม่มีผลกระทบกับบริษัท เพราะยังมีคนนิยมแลกเงินไปต่างประเทศ เนื่องจากเรตถูกกว่าการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศที่ถูกคิดค่าธรรมเนียมหลายต่อ ทั้งธนาคาร เครือข่ายชำระเงิน และความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 3%

อย่างไรก็ดี บริษัทมีการปรับตัวรับดิจิทัลเช่นกัน ซึ่งหากสังคมไร้เงินสด ตั้งเป้าภายใน 5 ปี บริษัทจะพัฒนาระบบเสร็จใน 3 ปี ซึ่งขณะนี้มีเทคโนโลยีที่กำลังทดสอบอยู่ ได้แก่ คิวอาร์โค้ดให้ลูกค้าสแกนแทนชำระเงินสด บัตรซุปเปอร์ริชการ์ด (แคชการ์ด) ที่กำลังติดต่อพันธมิตรร้านค้าคาดว่าจะใช้ได้สิ้นปีนี้ อี-วอลเล็ตบนมือถือ รวมทั้งบริการเปิดจองเงินสกุลต่างประเทศแบบออนไลน์ (อี-บุ๊กกิ้ง) ผ่านทางเว็บไซต์ก่อนรับเงินจริงที่สาขา ลดระยะเวลาทำธุรกรรมหน้าเคาน์เตอร์ลงจาก 7 นาที เหลือ 2 นาที

"แต่เรื่องอี-บุ๊กกิ้งเรายังไม่พร้อมเปิดตัวให้บริการ เนื่องจากติดข้อกฎหมายที่กำหนดว่า การแลกเปลี่ยนเงินต้องทำธุรกรรมต่อหน้าที่ต้องรู้จักลูกค้า อีกทั้งเรตค่าเงินขึ้นลงเร็ว หากบุ๊กเช้า เอาบ่าย 1 หมื่นดอลลาร์ก็ต่างกัน 3,000 บาทแล้ว" นายปิยะ กล่าว

นายปิยะ กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมศึกษาการนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ และหาที่ปรึกษาทางการเงินที่ซื่อสัตย์ ยังไม่รับปากว่าจะทันภายในปี 2562 หรือไม่

ล่าสุดได้เปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 4 โซนอิเซตัน เป็นสาขาที่ 49 ในประเทศ รวมกับสาขาต่างประเทศที่กัมพูชาและอังกฤษเท่ากับมี 51 แห่ง เพื่อรองรับการแลกเงินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ