posttoday

ค่าเงินบาทแข็งรับเลือกตั้ง

14 กันยายน 2561

ทุนต่างชาติเข้าอีกระลอก รับสัญญาณบวกเตรียมเลือกตั้ง ส่งผลค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเทียบกับค่าเงินในภูมิภาค

ทุนต่างชาติเข้าอีกระลอก รับสัญญาณบวกเตรียมเลือกตั้ง ส่งผลค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเทียบกับค่าเงินในภูมิภาค

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่โดดแข็งค่าขึ้นกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคเมื่อวานนี้ 3 ก.ย.) 32.54 บาท/ดอลลาร์สหรัฐมา จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ที่มีต่อประเทศไทย หลังจากเว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษาประกาศ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 เป็นสัญญาณชัดเจนที่ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้ง เป็นปัจจัยเชิงจิตวิทยาทำให้เงินทุน ต่างชาติไหลเข้ามา ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น และดัชนีตลาดหุ้นทะยานขึ้น

นอกจากนี้ มีปัจจัยต่างประเทศสนับสนุนจากสงครามการค้าที่มีท่าทีผ่อนคลายของสหรัฐพร้อมเปิดทางเจรจากับจีน ดีต่อประเทศตลาดเกิดใหม่หนุนเงินไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง

"ทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าไปพร้อมกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่วานนี้เงินบาทแข็งเร็วกว่าจากปัจจัยการเลือกตั้งที่เข้ามาใหม่แต่เป็นระยะสั้น โดยนักลงทุนประเมินว่าจะมีการเลือกตั้งเร็วที่สุดคือวันที่ 24 ก.พ. 2562" นายอมรเทพ กล่าว

นายอมรเทพ กล่าวว่า ปัจจัย พื้นฐานยังบ่งชี้ค่าเงินบาทในระยะต่อไปเป็นทิศทางอ่อนค่า ได้แก่ การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐในเดือน ก.ย.และ ธ.ค. ซึ่งตลาดได้ซึมซับปัจจัยดังกล่าว ไปแล้ว ที่ต้องจับตาการประชุมรอบเดือน ก.ย. ว่าดอตพล็อตทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐในปี 2562 ตลาดคาดว่าจะปรับขึ้น 3 ครั้ง ทำให้ทิศทางเงินดอลลาร์แข็งค่า และเงินบาทอ่อนค่า

นอกจากนี้ ความเสี่ยงของประเทศตลาดเกิดใหม่ยังคงอยู่ เช่น เวเนซุเอลา ตุรกี รวมทั้งจับตาว่าจะลุกลามไปอินโดนีเซียด้วยหรือไม่ ไทยซึ่งอยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ก็ยังเสี่ยงกับวิกฤตตลาดเกิดใหม่อยู่

สำหรับปัจจัยในประเทศ ติดตาม การส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมวันที่ 19 ก.ย.นี้ หาก กนง.ส่งสัญญาณชัดก็มีโอกาสที่เงินจะไหล เข้ามา ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้ ส่วนปัจจัยการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเริ่ม มีน้ำหนักน้อยลงต่อการเคลื่อนไหวของ ค่าเงินบาท