คลังวอนธปท.ตรึงดอกเบี้ย
คลังเบรก ธปท.ขึ้นดอกเบี้ย หวั่นเงินไหลเข้า ค่าเงินบาทแข็ง กระทบการลงทุน และการส่งออก
คลังเบรก ธปท.ขึ้นดอกเบี้ย หวั่นเงินไหลเข้า ค่าเงินบาทแข็ง กระทบการลงทุน และการส่งออก
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้แสดงความเห็นมาหลายครั้งแล้ว ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังไม่มีความจำเป็นขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งกระทรวงการคลังไม่มีอำนาจไปสั่ง ธปท.ได้แต่ดูภาพรวมกว้างๆ แล้วเห็นว่ายังไม่มีเหตุผลที่จะขึ้นดอกเบี้ย เพราะอัตราเงินเฟ้อก็ยังไม่ได้ตามกรอบที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม หาก ธปท.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ปัจจุบันอยู่ที่ 1.50% ก็จะกระทบการลงทุนของภาครัฐและเอกชน เพราะต้นทุนสูงขึ้น รวมถึงกระทบความสามารถการชำระหนี้ของประชาชนและภาคธุรกิจ จากที่ผ่านมากำลังผ่อนชำระหนี้ได้พอดีๆ ก็จะทำให้การชำระหนี้เริ่มติดขัด ซึ่ง ธปท.จะต้องนำไปพิจารณาด้วย
"สื่อต้องบอกว่า ผู้ส่งออกร้องเรียนได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น หากมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงนี้ ก็จะทำให้มีเงินไหลเข้าและค่าเงินบาทแข็งขึ้นกระทบกับผู้ส่งออกมากขึ้นไปอีก การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท.ก็จริง แต่ก็ควรชั่งน้ำหนัก เหมือนกับกรณีของธนาคารกลางสหรัฐที่คิดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่านี้มากกว่านี้ แต่เมื่อมีปัญหาเรื่องสงครามการค้าก็มีการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไป ธปท.ก็ต้องพิจารณาว่าหากเศรษฐกิจมีความเสี่ยงก็ควรชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่หากเห็นว่าไม่มีความเสี่ยงก็เป็นอำนาจของ ธปท.ที่จะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย" นายอภิศักดิ์ กล่าว
รมว.คลัง กล่าวว่า ตลาดหุ้นของไทยในช่วงนี้มีความผันผวนมาจากปัจจัยภายนอก แต่เศรษฐกิจไทยภาพรวมยังถือว่ามีเสถียรภาพมาก ได้รับผลกระทบน้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศคู่แข่ง อย่างไรก็ตามในอนาคตหากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะกระทบกับทุกประเทศ รวมถึงประเทศไทย แต่ก็ยังมั่นใจผลกระทบที่ไทยจะได้รับน้อยกว่า
นอกจากนี้ รมว.คลัง ยังกล่าวในระหว่างการมอบรางวัลคณะผู้บริหารคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ที่ดำเนินการดีเด่นประจำปีงบประมาณ 2560 ว่า คบจ.มีบทบาทที่สำคัญในการนำนโยบายของภาครัฐลงไปสู่ภาคปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งถือว่ามีส่วนช่วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมและเศรษฐกิจฐานรากอย่างมาก ไม่ว่าการดำเนินการลงทะเบียนสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย 11.4 ล้านคน โครงการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้หน่วยงานของรัฐรับจ่ายเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด รวมถึงการรวบรวมดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจภูมิภาคให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ติดตามประเมินเศรษฐกิจ เพื่อใช้กำหนดนโยบายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ