ฟื้นความน่าเชื่อถือ!แบงก์แห่อัพแก้ระบบสางปมโอนเงินล่มซ้ำซาก

ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกสมาคมแบงก์ และไอทีเอ็มเอ๊กซ์หารือ 5 ก.ย.นี้ เร่งฟื้นความเชื่อมั่นแก้ไขระบบล่ม หวั่นประชาชนตื่นตระหนก

แหล่งข่าวจากสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า วันที่ 5 ก.ย.นี้ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เรียกสถาบันการเงินซึ่งประกอบด้วยชมรมไอที สมาคมธนาคารไทย และบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ เข้าหารือปัญหาที่ระบบไอทีของธนาคารมีปัญหาขัดข้องเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ปัญหาเกิดเพียงระยะสั้น แต่กระทบกับความน่าเชื่อถือ จำเป็นต้องพูดคุยปัญหา วิเคราะห์ผลกระทบ และแนวทางแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก

นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ประธานกสิกร บิสิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (เคบีทีจี) กล่าวว่า ธนาคารมียอดปริมาณธุรกรรมสูงสุด (พีก) ประมาณ 4,000 รายการ/ วินาที ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกรรมภายใน ธนาคารเดียวกัน ส่วนข้ามธนาคารมีจำนวนไม่มาก โดยระบบในปัจจุบันสามารถรองรับได้ แต่จากพฤติกรรมลูกค้าที่ใช้โมบาย แอพมากขึ้น ธนาคารจึงเร่งพัฒนาระบบ ให้เพิ่มการรองรับธุรกรรมอีก 3 เท่า ภายใน 1 เดือน และขยายเป็น 10 เท่าภายใน 1 ปี

นอกจากนี้ ภายใต้งบลงทุน 1,000 ล้านบาท เป็นแผนลงทุนดิจิทัลแบงก์ ต่อเนื่องเพื่อรองรับอนาคตที่จะเติบโต อีกมากจากการที่โมบายแบงก์กิ้งเป็นช่องทางที่สะดวกของลูกค้า และมีส่วนช่วยลดต้นทุนบริหารเงินสดนอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ทำให้รู้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการและนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ เป็น ส่วนหนึ่งที่ทำให้ปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

รายงานข่าวจากธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่า การพัฒนาโมบายแอพ เอสซีบี อีซี่ คำนึงถึงปริมาณธุรกรรมที่ขยายตัวไว้แล้ว จึงออกแบบสถาปัตยกรรมของ แอพพลิเคชั่นให้เพิ่มประตูทางเข้าได้หลายทาง และขยายคาพาซิตี้ได้เรื่อยๆ (Horizontal) ปัจจุบันมีธุรกรรมมากกว่า 2,000 รายการ/วินาที และพร้อมขยายเพิ่มอยู่ตลอดเวลาไม่น้อยกว่า 30% หลังจากเห็นปริมาณธุรกรรมแตะระดับสูงสุด (พีก) ทุกสิ้นเดือน

ด้านบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ ปัจจุบันมีขีดความสามารถรองรับธุรกรรมข้ามธนาคารได้ 500 รายการ/วินาที ซึ่งธุรกรรมจริงในขณะนี้ยังไม่ถึงเพดาน แต่บริษัทก็ไม่นิ่งนอนใจอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเพื่อรองรับให้ได้ 1,000 รายการ/วินาที ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปีนี้

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไอทีเกาะติดสถานการณ์ธุรกรรมลูกค้าช่วงปลาย เดือนอย่างใกล้ชิด แม้ว่าที่ผ่านมาจะ ยังไม่มีปัญหาระบบล่ม เนื่องจากปริมาณธุรกรรมบนอิเล็กทรอนิกส์มีสัดส่วนเพียง 30-40%
ทั้งนี้ ธอส.จึงเร่งแผนทรานส์ฟอร์ เมชั่นไปสู่บริการดิจิทัล โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มปริมาณธุรกรรมชำระหนี้เงินกู้ผ่าน 3 ช่องทางใหม่ ได้แก่ เครื่องรับชำระหนี้เงินกู้อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องชำระเงินกู้ไร้เงินสด และโมบายแอพพลิเคชั่น ให้มีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 40% ของจำนวนธุรกรรมชำระเงินกู้ ให้ได้ภายในสิ้นปีนี้