posttoday

ธนาคารกรุงเทพผวาสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

23 กรกฎาคม 2561

แบงก์กรุงเทพตามติดปัญหาสงครามการค้าสหรัฐ-จีนใกล้ชิด หวั่นกระทบลูกค้าบ้าง แต่มั่นใจไม่กระทบเป้าสินเชื่อ 15%

แบงก์กรุงเทพตามติดปัญหาสงครามการค้าสหรัฐ-จีนใกล้ชิด หวั่นกระทบลูกค้าบ้าง แต่มั่นใจไม่กระทบเป้าสินเชื่อ 15%

นายสุวัชชัย ทรงวานิช ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงเทพ (ประเทศจีน) เปิดเผยว่า ธนาคารติดตามผลกระทบมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอย่างใกล้ชิด ซึ่งสหรัฐประกาศภาษีนำเข้าสินค้ารอบแรกไปเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา และประกาศว่ามีแผนจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของจีนเพิ่มเติมอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต้องดูว่าทางการจีนจะรับมือมาตรการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐอย่างไร

สำหรับลูกค้าของธนาคารนั้นคงได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จากการติดตามลูกค้ายังสามารถรับมือปัญหาดังกล่าวได้ โดยลูกค้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐยังไม่ได้รับผลกระทบมาก แต่ลูกค้าที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากสหรัฐมีผลกระทบบ้างแล้วในบางกลุ่ม ซึ่งลูกค้าก็ปรับตัวสามารถนำเข้าสินค้าจากแหล่งอื่นเข้ามาทดแทนได้

“ผลกระทบไม่มากเท่าไหร่ เพราะลูกค้าเราแข็งแรงไปนำเข้าวัตถุดิบจากที่อื่นได้ โดยความต้องการสินเชื่อก็คงเป็นไปตามแผนเดิม แต่ก็ติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะตอนนี้ยังเพิ่งเริ่มต้นต้องดูว่าสงครามการค้าครั้งนี้จะมีระยะยาวขนาดไหน” นายสุวัชชัย กล่าว

ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 2 ยังดีอยู่ ผลกระทบยังน้อยและธุรกิจเริ่มมีการปรับตัวเตรียมพร้อมต้องดูไตรมาส 3 คาดว่าเริ่มเห็นผลกระทบชัดเจนขึ้น ส่วนประมาณการอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2561 ยังไม่ปรับเปลี่ยนยังคงอยู่ที่ 6.5-6.8%

สำหรับกลยุทธ์ธนาคารกรุงเทพ (ประเทศจีน) ในครึ่งปีหลังจะดูแลลูกค้าใกล้ชิดขึ้น รายใดที่มีผลกระทบจะมีแผนปรับตัวรองรับอย่างไร รวมถึงประเมินต่อไปยังซัพพลายเชนไทยด้วย เพราะมาตรการภาษีรอบ 2 อีก 2 แสนล้านบาท ที่จะมีผลเดือน ก.ย.-ต.ค. มีสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย แต่อีกด้านหากผลิตที่จีนไม่ได้ ในระยะยาวอาจย้ายฐานการผลิตมาไทยหรืออาเซียนแทน

นายสุวัชชัย กล่าวว่า ยังมั่นใจว่าสินเชื่อจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยยอดสินเชื่อครึ่งปีแรกขยายตัว 11-12% ซึ่งธนาคารกรุงเทพ (ประเทศจีน) ตั้งเป้ายอดคงค้างสินเชื่อเติบโต 15% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเพราะมีบางโครงการล่าช้าจากปีก่อนมาเห็นผลปีนี้ และยังมีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิ ธุรกิจพลังงาน สินค้าเกษตรแปรรูป ขณะที่สัดส่วนลูกค้าจีนเพิ่มขึ้น 40% ส่วนลูกค้าไทยมีสัดส่วนกว่า 30%