posttoday

ออมสินแจงอุ้มหนี้ครูคิดดอกเบี้ยต่ำ

21 กรกฎาคม 2561

ธนาคารออมสินแจงปัญหาหนี้สินครู ยืนยันคิดดอกเบี้ยต่ำสุด พร้อมมีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ที่ยืดหยุ่น

ธนาคารออมสินแจงปัญหาหนี้สินครู ยืนยันคิดดอกเบี้ยต่ำสุด พร้อมมีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ที่ยืดหยุ่น

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงกรณีเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูรวมตัวประมาณ 100 ราย เรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 เป็นต้นไป พร้อมชักชวนลูกหนี้ ช.พ.ค. ทั่วประเทศร่วมกันยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2561 ว่า ปัจจุบันธนาคารออมสินคิดดอกเบี้ยโครงการ ช.พ.ค.ต่ำมากเพียง 5-6% ต่อปี ขณะที่ สินเชื่อบุคคลทั่วไปในระบบสถาบันการเงินที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันคิดดอกเบี้ย 15-28% ต่อปี อีกทั้งระยะเวลาผ่อนชำระนานถึง 30 ปี ซึ่งคิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอกเช่นเดียวกับสินเชื่อเคหะที่มีเงินงวดผ่อนชำระต่ำ ทำให้สามารถกู้เงินจำนวนที่สูงขึ้นได้

สำหรับยอดสินเชื่อโครงการ ช.พ.ค. ล่าสุดมีผู้กู้รวมประมาณ 4.33 แสนราย คิดเป็นวงเงินกู้ประมาณ 4.06 แสนล้านบาท โดยมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ประมาณ 4,079 ราย คิดเป็น 0.94% ของลูกหนี้ทั้งหมด ธนาคารอยากให้ครูที่มีปัญหาการผ่อนชำระ ไม่ว่าจะอยู่ใน ขั้นตอนใด ขอให้เข้ามาแจ้งความประสงค์ เพราะธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือครูที่ยืดหยุ่นผ่อนคลาย อยากให้ครูมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีวินัยทางการเงิน เพราะครูต้องทำหน้าที่ให้ความรู้ สร้างคนให้เป็นคนดีมีความรู้มีวินัยให้แก่ประเทศชาติต่อไป

ทั้งนี้ ออมสินเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ครูมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการผ่อนชำระหรือชำระไม่ไหว  ส่วนกรณีการทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อนั้นไม่ได้บังคับ และปรากฏว่ามีครูผู้กู้เลือกทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ คิดเป็นสัดส่วนถึง 85% ของจำนวนผู้กู้ทั้งหมด โดยในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา มีครูเสียชีวิต 1.59 แสนราย ครูที่ทำประกัน 10,800 ราย รวมทุนประกัน 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งครูจะมีหนี้ประมาณ 1 ล้านบาท/ราย เมื่อเสียชีวิตจะนำเงิน ช.พ.ค. 7 แสนบาท/ราย มาชำระหนี้ปิดบัญชีและจะมีเงินเหลือคืนทายาทรวมประมาณ 9,000 ล้านบาท ทำให้ทายาทและผู้ค้ำประกันไม่เดือดร้อน

สำหรับโครงการ ช.พ.ค.เกิดจากกระทรวงศึกษาธิการและธนาคารออมสินร่วมกันดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยการรวมหนี้สินของครูจากหลายแหล่ง ทั้งในระบบและนอกระบบที่มีอัตรา ดอกเบี้ยสูงมากู้ที่ธนาคารออมสินเพียงแห่งเดียว