ยอดกู้บ้านพุ่งแสนล.

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุบสถิติปล่อยสินเชื่อบ้าน 6 เดือนแรกปีนี้ทะลุแสนล้าน รับเศรษฐกิจฟื้นตัว กำลังซื้อดีขึ้น

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2561 ว่า สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้มากกว่า 1.05 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 53.67% จำนวน 8.52 หมื่นบัญชี โดยในจำนวนนี้เป็นผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท 5.14 หมื่นบัญชี ดันยอดสินเชื่อคงค้างรวมแตะที่ 1.07 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.62% คาดว่าภายในปี 2561 จะสามารถปล่อยสินเชื่อปล่อยใหม่ได้ตามเป้า 1.89 แสนล้านบาท

"นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การก่อตั้งธนาคารที่สามารถปล่อย สินเชื่อทะลุเกิน 1 แสนล้านบาท ภายใน 6 เดือนแรก เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการที่ธนาคารจัดทำผลิตภัณฑ์ สินเชื่อที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในทุกระดับรายได้ และภาวะดอกเบี้ย ขาขึ้นทำให้คนเร่งซื้อบ้าน" นายฉัตรชัย กล่าว

นอกจากนี้ ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 1,137,871 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.10% เงินฝากรวม 9.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.25% มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จำนวน 4.72 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 4.41% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.20% จาก ณ สิ้นปี 2560 ซึ่ง เอ็นพีแอลอยู่ที่ 4.21% ของสินเชื่อรวม และมีกำไรสุทธิ 6,439 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (บีไอเอส) ยังอยู่ที่ 14.53% ซึ่งสูงกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ธนาคารได้จัดทำเครื่องรับเงินฝากประชารัฐ เตรียมส่งพนักงานลงพื้นที่เพื่อรับฝากเงินเป็นการให้บริการนอกสถานที่แก่ลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยตามชุมชนต่างๆ ช่วยสร้างวินัยการเงิน และโอกาสในการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อเพื่อการมีบ้านในอนาคต โดยจะเริ่มให้บริการจำนวน 200 เครื่อง ภายในเดือน ก.ค.นี้

กรรมการผู้จัดการ ธอส.ระบุว่าพร้อมกันนี้ธนาคารได้รับนโยบายจากกระทรวงการคลังในนโยบาย 18 เดือน ในการทำแพลตฟอร์มบ้านมือสอง ร่วมกับศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารได้ระบายสินค้าบ้านมือสอง และยังมีแพลตฟอร์มในการขอสินเชื่อผ่านแอพพลิเคชั่นได้เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ธปท.เริ่มเห็นธนาคารพาณิชย์แข่งขันปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มราคาปานกลางถึงระดับสูง พบว่าวงเงินสินเชื่อต่อมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ (LTV) มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากแบงก์ต้องการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด จากเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนดไว้ที่ 95% ของมูลค่าบ้าน และคอนโดมิเนียมที่ 90% การให้วงเงินกู้สูงเกินเกณฑ์สะท้อนว่าธนาคารรับความเสี่ยงได้มากขึ้น  ธปท.จึงจับตาดู เพราะอาจเป็นสินเชื่อที่ทำให้เกิดการเก็งกำไร ที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงได้