posttoday

คลังเสียงแข็งไม่เลื่อนขึ้นภาษีบุหรี่40%

05 กรกฎาคม 2561

"อภิศักดิ์" สั่งยาสูบ รับซื้อใบยาจากชาวไร่เหมือนเดิม กระทุ้ง ยสท.เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ย้ำ ไม่เลื่อนขึ้นภาษีบุหรี่

"อภิศักดิ์" สั่งยาสูบ รับซื้อใบยาจากชาวไร่เหมือนเดิม กระทุ้ง ยสท.เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ย้ำ ไม่เลื่อนขึ้นภาษีบุหรี่

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้รายงานให้รับทราบเรื่องการหารือแก้ปัญหาการงดรับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ว่าทำไมต้องหยุดซื้อ ซึ่งเหตุผลฟังไม่ขึ้น จึงสั่งการให้ ยสท.รับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่เหมือนเดิม ไม่ให้มีการงดซื้อตามที่ ยสท.ประกาศไปก่อนหน้านี้

"ยสท.จะไปหยุดซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ทำไม ต้องมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ในเรื่องของสต๊อกใบยาสูบสามารถบริหารจัดการได้" นายอภิศักดิ์ กล่าว

รมว.คลัง กล่าวว่า ในส่วนข้อเสนอของชาวไร่ที่ต้องการให้คลังขยายเวลาการขึ้นอัตราภาษีบุหรี่ตามมูลค่าจาก 20% เป็น 40% ในปี 2562 ออกไปไม่มีกำหนด ถือว่าเป็นเรื่องที่ชาวไร่ยังไม่มีความเข้าใจ ดังนั้นการใช้ภาษียังเป็นไปตามกฎหมายเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยน

สำหรับอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ปัจจุบันเก็บอยู่ตามปริมาณ 1.20 บาท/มวน และตามราคา 20% สำหรับบุหรี่ราคาไม่เกิน 60 บาท และ 40% สำหรับบุหรี่ที่ราคาเกิน 60 บาท โดยในวันที่ 1 ต.ค. 2562 การเก็บภาษีตามมูลค่าจะเป็นอัตราเดียวกันทั้งหมดที่ 40% ทำให้บุหรี่ราคาต่ำกว่า 60 บาทตอนนี้ มีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 80-100 บาท/ซอง

ทั้งนี้ ชาวไร่ยาสูบที่ส่งหนังสือเรียกร้อง 4 ข้อ ได้แก่ 1.ให้รัฐบาลช่วยเหลือ ยสท.ในการจัดหางบประมาณเพื่อซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ในฤดูกาล 2561/2562 เป็นการเร่งด่วน 2.ให้กระทรวงการคลังปรับปรุงกฎกระทรวงใน พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ. 2560 เพื่อให้ ยสท.พอที่จะมีกำไรเพิ่มและขายบุหรี่ได้เพิ่มมากขึ้น 3.ให้กรมสรรพสามิตระงับการใช้อัตราภาษีตามมูลค่า 40% ในปี 2562 ออกไปก่อนแบบไม่มีกำหนด เพื่อให้ ยสท.และผู้ปลูกใบยาได้มีเวลาปรับตัว  และ 4.ให้รัฐบาลพิจารณาความสามารถและประสิทธิภาพการบริหารของ ยสท.

อีกทั้งที่ผ่านมาสมาคมหอการค้าธุรกิจสหรัฐอเมริกาได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลทบทวนอัตราภาษีบุหรี่ใหม่ที่จะเก็บตาม มูลค่า 40% ในปี 2562 ซึ่งจะทำให้บุหรี่มีราคาเพิ่มสูงขึ้นมากจนกระทบกับอุตสาหกรรมบุหรี่ประเทศไทยอย่างรุนแรง

ภาพประกอบข่าว