posttoday

'สรรพสามิต' ปัดเก็บภาษี ก่อนล่วงหน้า

22 มิถุนายน 2561

สรรพสามิตแจงไม่ได้เก็บภาษีล่วงหน้า ด้านผู้นำเข้าบุหรี่ชี้ทำผิดกฎหมายไม่เป็นธรรมการค้า

สรรพสามิตแจงไม่ได้เก็บภาษีล่วงหน้า ด้านผู้นำเข้าบุหรี่ชี้ทำผิดกฎหมายไม่เป็นธรรมการค้า

นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี รองโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตในรอบ 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงการเก็บรายได้รัฐบาลโดยรวมยังเกินเป้าหมาย 6 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่กรมสรรพสามิตต้องไปขอให้ผู้ประกอบการสุราและเบียร์มาเสียภาษีล่วงหน้า เพราะจะทำให้เกิดภาระกับผู้ประกอบการโดยตรง

ทั้งนี้ หลักการของกรมสรรพสามิตจะเก็บภาษีสรรพสามิตเมื่อสินค้าออกจากการผลิตจากโรงงาน หรือนำเข้าผ่านด่านศุลกากรภาระภาษีถึงจะเกิดขึ้นจริงเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเปลี่ยนกฎหมายของกรมสรรพสามิตในวันที่ 16 ก.ย. 2560 มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการจัดเก็บภาษีสุราและเบียร์ จากเดิมจะเก็บภาษีเมื่อนำของออกจากโรงงาน แต่ได้มีการเปลี่ยนให้มาเสียภาษีทุกวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดว่ามีการขอให้มาเสียภาษีล่วงหน้า

สำหรับการเสียภาษีอากรแสตมป์บุหรี่ล่วงหน้า เดิมกฎหมายเก่าเก็บจากราคาหน้าโรงงานสำหรับบุหรี่ผลิตในประเทศ และราคาสำแดงนำเข้า หรือซีไอเอฟ สำหรับบุหรี่นำเข้า ซึ่งราคาซีไอเอฟมีความไม่แน่นอน ต้องคิดภาษีจากราคาซีไอเอฟขณะนำเข้า ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมันและวัตถุดิบ ผู้ประกอบการมาซื้อแสตมป์ครั้งหนึ่งอาจจะใช้ในการผลิตไป 6 เดือน กรมสรรพสามิตจึงให้มีการวางแบงก์การันตีได้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกฎหมายสรรพสามิตใหม่มีการเก็บภาษีจากราคาขายปลีกแนะนำ เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการก็มีความชัดเจนเรื่องราคาที่จะเสียภาษีมากขึ้น ก็ไม่มีความจำเป็นต้องวางแบงก์การันตีอีกต่อไป ผู้ประกอบการบุหรี่นำเข้าสามารถซื้ออากรแสตมป์และจ่ายเงินได้ทันที

แหล่งข่าวจากบริษัทบุหรี่ต่างประเทศรายหนึ่ง เปิดเผยว่า การให้ ผู้ประกอบการบุหรี่นำเข้าซื้ออากรแสตมป์ชำระภาษีล่วงหน้าถือว่าเป็นการขัดกฎหมายสรรพสามิต เพราะกฎหมายกำหนดว่าภาระภาษีจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการนำเข้าสินค้าโดยการยื่นใบขนสินค้ากับกรมศุลกากร หากยังไม่ดำเนินการยื่นใบขนสินค้ากับกรมศุลกากร ก็ถือว่าผู้ประกอบการยังไม่มีภาระภาษีต้องจ่าย

นอกจากนี้ การเก็บภาษีล่วงหน้ายังใช้กับสินค้าบุหรี่ สุรา นำเข้าเท่านั้น แต่ไม่ใช้กับสินค้าประเภทอื่น เช่น รถยนต์นำเข้า ที่มีการเปลี่ยนฐานการคำนวณภาษีมาใช้ราคาขายปลีกแนะนำเหมือนกัน ทำให้ไม่เกิดความเป็นธรรมทางการค้า เป็นการเลือกปฏิบัติที่อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย