ชงคลังหาแผนอุ้มชาวไร่ยาสูบ

การยาสูบฯ ทำหนังสือหารือคลัง พิจารณาหามาตรการช่วยเกษตรกรหลังไม่สามารถรับซื้อใบยาในฤดูกาลนี้ได้

น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ยสท. เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.  2561 มีมติให้การยาสูบฯ ทำหนังสือหารือกระทรวงการคลัง เรื่อง การยาสูบฯ ไม่มีศักยภาพ หรือฐานะทางการเงินมากพอที่จะรับซื้อ ใบยาจากเกษตรกรปลูกใบยาในฤดูกาลนี้ได้ ซึ่งต้องมีการประกาศโควตาให้เกษตรกรในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อให้เกษตรกรเริ่มปลูกและนำผลผลิตมาขายให้การยาสูบฯ ในช่วงเดือน พ.ย.ปีนี้

ดังนั้น จึงต้องการรายงานสถานการณ์ให้กระทรวงการคลังรับทราบ เพื่อขอหารือแนวทางแก้ปัญหาในระยะต่อไป เพราะทางตัวแทนเกษตรกรต้องการให้มีการรับซื้อใบยาต่อไป

แต่เนื่องจากขณะนี้ การยาสูบฯ มีใบยาสูบคงเหลือในคลังสินค้าทุกสายพันธุ์เพียงพอ รองรับการผลิตได้อีก 3-5 ปี และต้องตรวจสอบคุณภาพใบยาด้วยว่าเสื่อมสภาพหรือไม่เป็นระยะ ทำให้ไม่สามารถรับซื้อใบยาเพิ่มได้อีกในฤดูกาลนี้

"คุณภาพใบยาที่ใช้นำมาผลิตยาสูบได้อยู่ระหว่าง 12-18 เดือน หรืออย่างมากก็ไม่ควรเกิน 24 เดือน แต่เนื่องจากยอดขายที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้ยังเหลือใบยาในคลังไว้ใช้ได้ 3-5 ปี จึงไม่สามารถรับซื้อใบยาใหม่ได้ ทั้งนี้ ตัวแทนเกษตรกรได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาว่าต้องการให้รัฐพิจารณาเรื่องแก้ พ.ร.บ.สรรพสามิต เพราะทำให้เกิดปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ" น.ส.ดาวน้อย กล่าว

สำหรับยอดขายบุหรี่ของการยาสูบฯ ล่าสุด มีส่วนแบ่งการตลาดลดลง 30% จากที่เคยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 80% ลดลงเหลือ 59% ขณะที่บุหรี่ต่างประเทศมียอดขายเพิ่มขึ้น 100% จากที่เคยที่มีส่วนแบ่งการตลาด 20% ได้ปรับเพิ่มเป็น 40% ทำให้ภาพรวมกำลังการผลิตบุหรี่ของการยาสูบฯ ลดลงจากเดิมปีละ 3.2 หมื่นล้านมวน จะเหลือ 1.7 หมื่นล้านมวน ในปีนี้ คาดว่าในปีนี้ผลดำเนินงานจะประสบภาวะขาดทุน ไม่สามารถนำส่งรายได้เข้ารัฐได้จากปีงบประมาณ 2560 ที่สามารถนำส่งรายได้ให้กระทรวงการคลัง 8,816 ล้านบาท

ภาพประกอบข่าว