posttoday

รัฐวิสาหกิจดันรายได้เกินเป้า6หมื่นล.

25 พฤษภาคม 2561

รัฐวิสาหกิจเร่งส่งเงินเข้าคลัง ดันจัดเก็บรายได้รัฐ 7 เดือนทะลุเป้า สูงกว่าประมาณการ 6.05 หมื่นล้าน

รัฐวิสาหกิจเร่งส่งเงินเข้าคลัง ดันจัดเก็บรายได้รัฐ 7 เดือนทะลุเป้า สูงกว่าประมาณการ 6.05 หมื่นล้าน

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการ กระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 จัดเก็บได้ 1.29 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6.05 หมื่นล้านบาท หรือ 4.9% โดยมีสาเหตุจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 3.04 หมื่นล้านบาท และการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นสูงกว่าประมาณ 2.31 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเก็บภาษี กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 8.99 แสนล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 6,554 ล้านบาท หรือ 0.7% เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1.42 หมื่นล้านบาท และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1,958 ล้านบาท

ขณะที่กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 3.22 แสนล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,289 ล้านบาท หรือ 0.7% โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีน้ำมัน 7,388 ล้านบาท ภาษีเบียร์ 4,341 ล้านบาท และภาษีสุราฯ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,001 ล้านบาท

ด้านกรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 6.33 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,070 ล้านบาท หรือ 3.2% โดยเป็น ผลจากการจัดเก็บอากรขาเข้าต่ำกว่าประมาณการจำนวน 2,343 ล้านบาท เนื่องจากการนำเข้าสินค้าที่ใช้สิทธิพิเศษทางภาษีมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้การจัดเก็บอากรขาเข้าไม่ขยายตัวตามที่ประมาณการไว้

น.ส.กุลยา กล่าวว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1.29 ล้านล้านบาท ในขณะที่มี การเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1.84 ล้านล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อ ชดเชยการขาดดุล จำนวน 3.34 แสนล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน เม.ย. 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.77 แสนล้านบาท

"การเบิกจ่ายงบประมาณในช่วง 7 เดือนของปีงบ 2561 สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว เป็นปัจจัยสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันรัฐบาลยังบริหารเงินคงคลังให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ รองรับการเบิกจ่าย ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ และ การจัดเก็บรายได้ในครึ่งปีหลังจะยัง เป็นไปตามที่คลังประมาณไว้" น.ส. กุลยา กล่าว