ลุ้นส่งออกโตทะลุ 8%

โดย...ทีมข่าวการเงินโพสต์ทูเดย์

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกของไทยในเดือน เม.ย. 2561 ว่า ขยายตัวสูงขึ้น 12.3% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 หรือมีมูลค่า 18,946 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การส่งออก 4 เดือนแรก (ม.ค.เม.ย.  2561) ขยายตัว 11.5% มูลค่า 81,775 ล้านดอลลาร์ โดยมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน เม.ย. 2561 พลิกกลับมาขาดดุล 1,283 ล้านดอลลาร์ นับเป็นการขาดดุลสูงสุดในรอบ 43 เดือน จากมูลค่าการนำเข้าสินค้าที่ขยายตัวสูงถึง 20.4% ส่วนหนึ่งมาจากทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับมีการเร่งนำเข้าสินค้ามาผลิตเพื่อส่งออกในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา

ทหารไทยปรับเป้าส่งออกโต 8.6%

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ประเมินการ ส่งออกของไทยปี 2561 โตได้ถึง 8.6% (สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 4.8% ณ ม.ค. 2561) จากปัจจัยด้านราคาที่สูงขึ้นทั้งกลุ่มสินค้าเกษตร สินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน และปัจจัยด้านปริมาณจากการขยายตัวต่อเนื่องของประเทศคู่ค้า

สำหรับมูลค่าการส่งออกไทยใน ช่วง 8 เดือนที่เหลือของปี 2561 คาดว่ามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ชะลอตัวลงด้วยผลของฐานสูง ซึ่งการขยายตัวเป็นผลมาจากทั้งราคาและปริมาณที่เพิ่มขึ้น จากการศึกษาความสัมพันธ์ของราคาน้ำมันในตลาดโลกกับราคาสินค้าส่งออกในกลุ่มสินค้าเกษตรและสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกัน คือ ผลของราคาน้ำมันดิบ ที่เปลี่ยนแปลงทุก 1% จะทำให้ ราคาสินค้าส่งออกเปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกันประมาณ 0.11%

ศูนย์วิเคราะห์ฯ มองว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกในช่วงที่เหลือจะเฉลี่ยอยู่ที่ 71 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ประมาณ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล ดังนั้น ผลทางด้านราคาที่เพิ่มขึ้นจะทำให้มูลค่าส่งออกในกลุ่มสินค้าเกษตร ยางพารา เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป และเหล็ก ที่มีสัดส่วนถึง 1/4 ของมูลค่าส่งออกรวมจะปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ สถานการณ์ทิศทางเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2561 จะขยายตัวได้ 3.9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขยายตัวได้ 3.7%

อย่างไรก็ตาม มีประเด็นความเสี่ยงที่ผู้ส่งออกต้องติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่ ได้แก่ 1) สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และ 2) เงินบาทที่มีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง คาดว่า ณ สิ้นปี 2561 อัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ระดับ 31 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปัจจุบัน 3.5% จากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นต่อ

ด้านศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) คาดมูลค่าการส่งออกทั้งปี 2561 จะขยายตัวที่ 7.5% โดยเศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวได้ดีในปี 2561 จะส่งผลให้ความต้องการสินค้าทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าที่ เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันอาจได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ในปี 2561 อยู่ที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 28% ในขณะที่ผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐที่มีต่อไทยยังมีค่อนข้างจำกัด และสามารถชดเชยด้วยการส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ ที่ยังขยายตัวได้ดี อย่างไรก็ดี อีไอซีมองว่านโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐยังถือเป็นความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป เงินบาทอ่อนค่าลงลดแรงกดดันต่อรายได้ในรูปเงินบาทของผู้ส่งออกไทย มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทของไทย

ส่วน มูลค่าการนำเข้าทั้งปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวที่ 12.2% โดยเติบโตตามความต้องการสินค้าวัตถุดิบและสินค้าทุน ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวตามการลงทุนในประเทศทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงหลังจากนี้ ประกอบกับมูลค่าการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าที่คาดว่าจะขยายตัวสูงจะมีส่วนทำให้การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยในปีนี้ลดลง

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า เส้นทางการส่งออกสินค้าของไทยในช่วง 8 เดือนที่เหลือของปี 2561 จะยังรักษาอัตราการขยายตัวที่เป็นบวกต่อเนื่องจากช่วง 4 เดือนแรกได้ตามเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง รวมถึงระดับราคาสินค้าโภคภัณฑ์มี แนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น และอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน