posttoday

ออมสินฟาดกำไร1.3หมื่นล.

08 พฤษภาคม 2561

ออมสินกำไรพุ่งไตรมาสแรก 1.34 หมื่นล้าน สินเชื่อทะลุ 2 ล้านล้าน ตั้งงบ 2,000 ล้าน ให้พนักงานออกก่อนเกษียณลดต้นทุนธนาคาร

ออมสินกำไรพุ่งไตรมาสแรก 1.34 หมื่นล้าน สินเชื่อทะลุ 2 ล้านล้าน ตั้งงบ 2,000 ล้าน ให้พนักงานออกก่อนเกษียณลดต้นทุนธนาคาร

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1.34 หมื่นล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงเท่าตัวที่มีกำไร 6,178 ล้านบาท โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากการขายหุ้นสามัญและรายได้จากดอกเบี้ยสุทธิ

"ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา เราปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ถึง 1.49 แสนล้านบาท ทำให้สินเชื่อคงเหลือ ณ วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.05 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.24% โดยมาตรการของรัฐบาลที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยให้สินเชื่อขยายตัวได้ครอบคลุมทุกกลุ่มประเภท ได้แก่ สินเชื่อภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และสถาบันการเงิน สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี สินเชื่อธนาคารประชาชน และสินเชื่อธุรกิจห้องแถว" นายชาติชาย กล่าว

นอกจากนี้ ธนาคารยังมุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ที่มีอยู่ 4.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 2.19% ของสินเชื่อรวม ซึ่งต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของระบบธนาคารพาณิชย์

นายชาติชาย กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานในปี 2561 นี้ ได้มุ่งเป้าหมายสู่การเป็นธนาคารที่ดีที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุด โดยมุ่งเน้นลูกค้าใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มลูกค้าฐานราก/นโยบายรัฐ มุ่งเน้นกลุ่มผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งธนาคารได้เข้าไปสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผู้มีหนี้นอกระบบ และกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก หรือพ่อค้า-แม่ค้า ซึ่งธนาคารมีเป้ายกระดับให้ประชาชนก้าวพ้นจากความยากจน

2.กลุ่มลูกค้าบุคคลมุ่งเน้นกลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มบุคคลรายได้ปานกลาง กลุ่มผู้สูงวัย ที่มีการเปิดตัวธนาคาร ผู้สูงวัย เมื่อต้นปี 2560 โดยเฉพาะ สินเชื่อรีเวิร์ส มอร์เกจ และ 3.กลุ่มลูกค้า เอสเอ็มอีมุ่งเน้นกลุ่มเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ โดยจะขยายศูนย์ธุรกิจลูกค้าเอส เอ็มอีครบ 82 ศูนย์ ในเดือน ก.ย.นี้

สำหรับแนวโน้มธนาคารพาณิชย์มีทิศทางการปิดสาขามากขึ้นเพื่อลดต้นทุนนั้น ปัจจุบันธนาคารออมสินมีสาขา 1,059 แห่ง จะไม่มีการปิดสาขา แต่จะปรับรูปแบบสาขาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดต้นทุนของสาขา ได้แก่ ปรับบทบาทพนักงานบริการให้เป็นพนักงานขายมากขึ้น เช่น ขายประกันและหน่วยลงทุนของกองทุนต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และธนาคารได้เพิ่มหน่วยงานใหม่เพื่อพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ล้ำสมัยรองรับการเป็น Digital Banking และการจับมือคู่ค้าพันธมิตรเพื่อต่อยอดธุรกิจ อาทิ กลุ่มฟินเทคและกลุ่มอี-คอมเมิร์ซ

นายชาติชาย กล่าวว่า ในปี 2561 ธนาคารเปิดโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ตั้งเป้าไว้ 500 คน ใช้งบ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นผลดีกับธนาคารในเรื่องของการลดต้นทุนการดำเนินงานของธนาคาร ระยะยาวปานกลางและยาวลดลง