posttoday

ธปท.ผ่อนเงื่อนไขคลินิกแก้หนี้ หวังดึงคนเข้าร่วมเพิ่ม

23 เมษายน 2561

ธปท.ผ่อนเงื่อนไขคลินิกแก้หนี้ ขยายระยะเวลาการเป็นหนี้ พร้อมเปิดทางกลุ่มลูกหนี้ที่ถูกฟ้องร้องแล้วสามารถจะยื่นปรับโครงสร้างหนี้ได้

ธปท.ผ่อนเงื่อนไขคลินิกแก้หนี้ ขยายระยะเวลาการเป็นหนี้ พร้อมเปิดทางกลุ่มลูกหนี้ที่ถูกฟ้องร้องแล้วสามารถจะยื่นปรับโครงสร้างหนี้ได้

แหล่งข่าวจากธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ ธปท.จะมีการผ่อนเกณฑ์คุณสมบัติของลูกหนี้ที่จะเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ โดยขยายระยะเวลาจากเดิมกำหนดต้องเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในระบบกับธนาคารพาณิชย์ไทยและสาขาธนาคารต่างประเทศก่อนวันที่ 1 พ.ค. 2560 ขยายต้องเป็นหนี้ก่อนปี 2561 รวมถึงการเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ที่อยู่ในระหว่างการถูกดำเนินคดีทางกฎหมายเข้าร่วมโครงการได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ธปท.ได้มีการผ่อนเงื่อนไขให้ลูกหนี้ที่มีอาชีพอิสระเข้าโครงการได้เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2561 และผ่อนปรนหลักเกณฑ์ในการพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้เพื่อรองรับและช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนประเด็นที่มีการเสนอให้ลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (นันแบงก์) ให้สามารถเข้าโครงการด้วยนั้นยังไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ โดยอยู่ระหว่างแก้ไขพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 เพื่อเปิดทางให้บริการกลุ่มนันแบงก์ได้

“ที่ผ่านมามีลูกหนี้จำนวนมากสนใจติดต่อที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ประมาณ 3 หมื่นราย แต่ผ่านคุณสมบัติเพียง 300 ราย โดยเฉลี่ยเป็นหนี้ 2-3 แสนบาท/ราย ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ ธปท.คาดไว้มาก เพราะติดอุปสรรคหลายอย่าง โดยส่วนใหญ่มีภาระหนี้สินกับนันแบงก์ รวมทั้งไม่มีความสามารถการชำระหนี้และบางกลุ่มก็ยังไม่ถึงกับเป็นหนี้เอ็นพีแอล อีกทั้งยังมีบางกรณีที่แบงก์พาณิชย์แต่ละรายก็รีบชิงปรับโครงสร้างลูกหนี้ก่อนที่จะมารวมหนี้ที่คลินิกแก้หนี้”แหล่งข่าวเปิดเผย

นอกจากนี้ โครงการคลินิกแก้หนี้เกิดจากความร่วมมือของ ธปท. สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ โดยมีบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) เป็นผู้ดำเนินงานตัวกลางในการเจรจากับเจ้าหนี้สถาบันการเงิน เพื่อช่วยลูกหนี้ที่มีความตั้งใจจะปลดภาระหนี้สินได้ เริ่มเปิดโครงการนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2560 จากเดิมกำหนดคุณสมบัติลูกหนี้ที่จะเข้าโครงการได้คือ 1.เป็นเอ็นพีแอล หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในระบบกับธนาคารพาณิชย์ไทยและสาขาธนาคารต่างประเทศก่อนวันที่ 1 พ.ค. 2560 2.วงเงินหนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท 3.ไม่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย 4.มีเงินเดือนประจำ และ 5.ห้ามก่อหนี้อีกภายใน 5 ปี