ศูนย์วิจัยฯออมสินคาดประชาชนฐานรากใช้จ่ายสงกรานต์16,500 ล.

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจแบงก์ออมสินเผย ประชาชนฐานรากจะมีการจับจ่ายใช้สอยในช่วงกรานต์ปี61 ประมาณ 16,500 ล้านบาท

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน ทำการสำรวจการใช้จ่ายของประชาชนฐานรากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาททั่วประเทศ 2,200 ตัวอย่าง คาดว่าจะมีการจับจ่ายใช้สอยประมาณ 16,500 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 3,970 บาท ปัจจัยสนับสนุนที่กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยส่วนหนึ่งมาจากการที่รัฐบาลประกาศเพิ่มวันหยุดต่อเนื่อง 5 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายนนี้ เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาและกระตุ้นการท่องเที่ยวทั่วประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายช่วงเทศกาลสงกรานต์กับปีก่อน พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 43.6 มีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม ขณะที่ร้อยละ 31.7 คิดว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการวางแผนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัด และรู้สึกว่าราคาสินค้าบางส่วนมีการปรับเพิ่มขึ้น เช่น ค่าน้ำมัน ขณะที่ร้อยละ 20.6 มีค่าใช้จ่ายน้อยลง เนื่องจากต้องประหยัด และใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น สำหรับแหล่งที่มาของเงินที่นำมาจับจ่ายใช้สอยส่วนใหญ่เกินครึ่งมาจากรายได้ เงินออม เงินจากคนในครอบครัว เงินกู้ยืม ซึ่งมีทั้งเงินกู้นอกระบบและในระบบ และเงินสวัสดิการจากภาครั

สำหรับ กิจกรรม 3 อันดับแรกที่ประชาชนฐานรากนิยม คือ ทำบุญ/สรงน้ำพระ/รดน้ำ ขอพรผู้ใหญ่ ร้อยละ 86.0 มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 445 บาท สังสรรค์ เลี้ยงฉลอง ร้อยละ 61.4 มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 980 บาท ให้เงินพ่อ แม่ และคนในครอบครัว ร้อยละ 56.3 มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,770 บาททั้งนี้ ภาพรวมประชาชนฐานรากมีความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น เช่น ลดการสังสรรค์ เลี้ยงฉลอง ลดการซื้อของฝาก ขณะที่มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นจากการเดินทางพักผ่อน เล่นน้ำ ตามประเพณี และกลับภูมิลำเนา/เยี่ยมญาติ