posttoday

ออมสินดัน3กองทุนหนุนเอสเอ็มอี

31 มีนาคม 2561

ธนาคารออมสินเร่งร่วมทุนหนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จับมือ ตลท. ดัน 3 กองทุน ประเดิมเซ็นสัญญาแล้วกับ 2 บริษัท

ธนาคารออมสินเร่งร่วมทุนหนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จับมือ ตลท. ดัน 3 กองทุน ประเดิมเซ็นสัญญาแล้วกับ 2 บริษัท

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาธนาคารได้สนับสนุนการดำเนินงานของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตามนโยบายรัฐบาล ทั้งการให้สินเชื่อประกอบธุรกิจและจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุน SMEs Private Equity Trust Fund จำนวน 3 กอง วงเงินลงทุน 2,000 ล้านบาท โดยมีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมสนับสนุนผ่านการระดมทุนเสริมความแข็งแกร่ง ธนาคารออมสินได้มีการอนุมัติร่วมลงทุนไปแล้ว 9 ราย คิดเป็นวงเงิน 275 ล้านบาท

ทั้งนี้ ธนาคารได้ลงนามสัญญาร่วมลงทุน 2 ราย ได้แก่ 1.บริษัท ช็อคโก้ คาร์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ ซึ่งประกอบธุรกิจสร้างระบบ CRM (Customer Relationship Management) สำหรับลูกค้า SMEs ปัจจุบันมีสมาชิกร้านค้ามากกว่า 1,000 ร้านค้า มีผู้ถือบัตรสมาชิก "ช็อคโก้ คาร์ด" มากกว่า 8 แสนราย และบริษัทที่ 2 PUUN Intelligent เจ้าของแบรนด์ "Peakengine" ซึ่งเป็นผู้ผลิตโปรแกรมบัญชีออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Cloud อำนวยความสะดวกให้การทำงานบัญชีรวดเร็วและใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ช่วยให้ประหยัดต้นทุนการทำบัญชีได้สูงถึงเดือนละ 9,000 บาท ทำให้ลูกค้าเอสเอ็มอีสามารถเห็นตัวเลขทางการเงินในแต่ละเดือนและประมาณการการใช้เงินล่วงหน้าได้ และเมื่อมีข้อมูลทางการเงินที่ดีจะทำให้สามารถขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบัน "Peakengine" มีผู้ใช้งานกว่า 4,000 ราย มียอดรายการค้าที่สร้างผ่านระบบกว่า 800 ล้านบาท/เดือน

นายชาติชาย กล่าวว่า ขณะที่ SMEs Start-Up ที่อนุมัติเบื้องต้น จำนวน 6 ราย วงเงินประมาณ 130 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม การท่องเที่ยว Digital Media ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ Fintech อีกทั้งยังมี Deal ที่อยู่ใน Pipeline อีกทั้งหมดรวม 14 ราย คิดเป็นวงเงิน 865 ล้านบาท แบ่งเป็นประเภทธุรกิจ Fintech จำนวน 6 ราย วงเงิน 400 ล้านบาท ธุรกิจเทคโนโลยี จำนวน 3 ราย วงเงิน 200 ล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2 ราย วงเงิน 100 ล้านบาท อื่นๆ อาทิ การศึกษา แฟชั่น รวมจำนวน 3 ราย วงเงิน 165 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การลงทุนของกองทุนดังกล่าวมีกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม คือ 1.SMEs ระยะเริ่มต้น (Start-Up Stage) ที่มีศักยภาพสูง 2.SMEs ที่มีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่มีประโยชน์ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ 3.SMEs ที่เป็น Supplier ธุรกิจภาครัฐและภาคเอกชนขนาดใหญ่ หรือเป็นสมาชิกของสภาหอการค้าไทย หรือหน่วยงานภาครัฐ และ 4. SMEs ที่เป็นกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise)