posttoday

ธนชาตปั๊มเบี้ย7.9พันล. วางแผน3ปีโตปีละไม่ต่ำกว่า5% พึ่งดิจิทัลพัฒนาตัวสินค้าใหม่

30 มีนาคม 2561

ธนชาตประกันภัย วางเป้าปีนี้ทำเบี้ย 7,900 ล้าน พร้อมแผนกลยุทธ์ 3 ปี โตไม่ต่ำกว่าปีละ 5%

ธนชาตประกันภัย วางเป้าปีนี้ทำเบี้ย 7,900 ล้าน พร้อมแผนกลยุทธ์ 3 ปี โตไม่ต่ำกว่าปีละ 5%

นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าทำเบี้ยให้ได้ 7,900 ล้านบาท หรือเติบโต 5% พร้อมวางยุทธศาสตร์ดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง 3 ปี (2561-2563) ด้วยการเติบโตให้ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 5%

"เราจะนำเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆ มาใช้มากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาการบริหารจัดการข้อมูลในรูปแบบ 'Data Governance' เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลที่มีอยู่ ด้วยความถูกต้อง ปลอดภัย และเกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาสินค้าและบริการให้กับลูกค้า ตลอดจนบริหารจัดการความเสี่ยงขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านผลิตภัณฑ์ได้คิดค้นและต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น" นายพีระพัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังมีเงินกองทุนเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (อาร์บีซี) อยู่ที่ระดับ 797% ขณะที่กฎหมายกำหนดไว้เพียง 140% เท่านั้น

นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า ในอนาคตอีก 3-4 ปีข้างหน้า จะมีการเปลี่ยนแปลงสูงมาก ทั้งจากคู่แข่งและหน่วยงานกำกับดูแลอย่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่จะนำอาร์บีซีใหม่มาใช้ตามมาตรฐานสากล รวมถึงมาตรฐานบัญชีใหม่อีกด้วย บริษัทจึงต้องเตรียมรับมือเรื่องนี้ให้ดี

สำหรับกลยุทธ์หลักในปีนี้จะไม่แข่งขันเรื่องราคา แต่จะพัฒนาแบบประกันใหม่ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม เช่น การเปิดตัวแบบประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ใหม่ "ธนชาต ONE LITE" และประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ "ธนชาต 3+จัดเต็ม"

นอกจากนี้ ยังได้ให้ความสำคัญกับการต่อยอดแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้บริการที่สะดวกรวดเร็ว โดยไตรมาส 3 นี้เตรียมเปิดตัว "Thanachart Insurance Line Official Account" แบบครบวงจรต่อ ยอดการบริการให้ใกล้ชิดกับลูกค้าอีกขั้น

นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ทำเบี้ยได้ 7,500 ล้านบาท เติบโต 17% แบ่งเป็นสัดส่วนเบี้ยรถยนต์ 85% และเบี้ยที่ไม่ใช่รถยนต์หรือนันมอเตอร์ 15% และมีกำไรสุทธิ 1,051 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 3.5% อันดับที่ 10 โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้าอยู่ 1.5 ล้านฉบับ