สินเชื่อบ้านพุ่งขึ้น6% ผลจากรัฐลงทุนกว่า1.1ล้านล้าน ออกกฎหมายหนุนอสังหาฯโต

เอกชนชี้การลงทุนภาครัฐดันเศรษฐกิจไทยขยายตัว หนุนอสังหาฯ และสินเชื่อโตเพิ่มราว 6%

นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า ในปีนี้แนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยบ้านไม่น่าจะมีหรือขึ้นไม่มาก ทั้งนี้คาดว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะมีการขยายตัวเพิ่ม 6% หรือเพิ่มขึ้นอีกราว 2 แสนล้านบาท จากปีที่แล้วมีการขยายตัว 5.5-6% หรือประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ การเติบโตเป็นผลมาจากปัจจัยหนุนเรื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ภาคการส่งออก และการท่องเที่ยวดี ขณะที่การบริโภคก็ดีขึ้น แม้หลายฝ่ายจะวิตกเกี่ยวกับยอดปฏิเสธสินเชื่อยังมีจำนวนสูง ซึ่งมองว่าไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯ โดยรวม เนื่องจากเป็นการเข้มงวดของสถาบันการเงินที่ระมัดระวังไม่ให้เกิดเอ็นพีแอล หรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

ขณะที่หนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 72% ของจีดีพี ในจำนวนนี้เป็นหนี้เอ็นพีแอลด้าน ที่อยู่อาศัยเพียง 2%  อย่างไรก็ดีปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของ ภาคอสังหาฯและสินเชื่อที่อยู่อาศัย คือราคาที่ดินที่สูงขึ้นทำให้ราคาที่อยู่อาศัยแพงขึ้น

ด้าน นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวว่า ด้วยเศรษฐกิจของโลกมีการขยายตัวดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศไทยทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานมีการขยายตัวอันเป็นผลมาจากการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งปีนี้จะมีเงินเข้าสู่ระบบรวมกว่า 1.1 ล้านล้านบาท อีกทั้งการบริโภค การส่งออก การ ท่องเที่ยว รวมทั้งสินเชื่อคงค้างมีการเติบโตสูงต่อเนื่อง มองว่าจะเป็นโอกาสที่เศรษฐกิจจะสามารถเติบโตได้อีกมาก

นอกจากนี้ การลงทุนโครงสร้างข่ายคมนาคมขนส่งทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด ส่งผลให้เมืองขยายตัว การเดินหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ตลอดทั้งการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจะเป็นปัจจัยสนับสนุนและโอกาสต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าปีนี้จะมีอัตราการขยายตัวโดยรวมใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ซึ่งมีการเติบโตที่ 6.4% เนื่องจากการขยายตัวทั้งในส่วนของที่อยู่อาศัยและการลงทุนปล่อยเช่า

อย่างไรก็ดี เนื่องจากปัจจุบันมีกฎหมายและกฎระเบียบที่กลายเป็นข้อจำกัด ทำให้อาคารบางประเภทไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ขณะที่ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งการพัฒนาบนที่ดินลีสโฮลด์เป็นการให้สิทธิ เช่าระยะยาวเริ่มมีให้เห็นมากขึ้น เพราะต้นทุนต่ำกว่าและรูปแบบมิกซ์ยูสจะมีมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้ภาคอสังหาฯ มีความแข็งแกร่งเรื่องของกฎระเบียบต้องมีความชัดเจน

นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้รัฐได้ดำเนินการออกกฎหมายรวมทั้งปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่เดิมให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เช่น การออกกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าของทรัพย์สิน กระตุ้นความเชื่อมั่นในการลงทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของกฤษฎีกา นอกจากนั้นยังมีร่าง พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ...ซึ่งคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการแล้ว ทั้งนี้ได้มีการปรับปรุงให้มีความชัดเจนคล่องตัวมากขึ้น