เส้นทางคริปโต ต้องโปร่งใส-อยู่ในกำกับ

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

เรื่องคริปโตเคอเรนซีในไทยชัดเจนขึ้น ไทยให้นิยามว่า หน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่อาจมีมูลค่าถือได้ แต่สิ่งนี้ไม่ใช่เงิน ทว่าในกระแสโลก ก็ยังมีความพยายามทำให้คริปโตเคอเรนซีทำหน้าที่เหมือนเงินได้ จึงเป็นเรื่องท้าทายว่าไทยจะรับมือนวัตกรรมเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี ที่อาจเข้ามาได้อย่างไร

คริส มาร์ซาเล็ค ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมนาโคเทคโนโลยี ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เก็บ คริปโตเคอเรนซี เปิดเผยในงานมันนี่ เอเชีย 20/20 ที่ประเทศสิงคโปร์ ว่า ได้เปิดตัวบัตรโมนาโค วีซ่า เป็นบัตรวีซ่า ให้ลูกค้านำคริปโตเคอเรนซีที่ฝากในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของโมนาโค ไปใช้จ่ายตามร้านค้าทั่วโลกได้ผ่านบัตรโมนาโค วีซ่า บัตรนี้จะแปลงคริปโตเคอเรนซีเป็นเงินสกุลท้องถิ่นไว้ใช้จ่าย

สาเหตุที่เลือกเปิดตัวที่สิงคโปร์ เพราะมองว่าเอเชียเป็นตลาดซื้อขายคริปโตเคอเรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งประเทศที่เป็นศูนย์กลางซื้อขายใหญ่ๆ คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น

การออกบัตรครั้งนี้หวังเป็นต้นแบบ ตอบโจทย์คนมีคริปโตเคอเรนซี ทำให้รู้สึกว่าสิ่งนี้สัมผัสได้ นำไปซื้อขายได้จริง ปิดช่องว่างตลาดที่คนยังไม่สามารถนำคริปโตเคอเรนซีไปใช้จ่ายทั่วไปได้ โดยหลังเปิดตัวบัตร มีกระแสผู้สนใจแล้วไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นคน แต่โมนาโค ยังไม่มีแผนเปิดตัวบัตรนี้ในไทย

มาร์ซาเล็ค กล่าวว่าหากต้องการให้คริปโตเคอเรนซีถูกใช้งานแพร่หลายในอนาคต จุดสำคัญ ธุรกิจที่ทำเรื่องคริปโตเคอเรนซี ต้องทำงานกับหน่วยงานกำกับ ให้แน่ใจว่าสิ่งที่ทำอยู่ภายใต้เกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับยอมรับ โดยในเอเชียแปซิฟิกแม้เป็นภูมิภาคน่าสนใจขยายตลาด แต่หากจะเข้าประเทศใด ต้องแน่ใจก่อนว่า หน่วยงานกำกับประเทศนั้นยอมรับ เพราะผู้ดำเนินธุรกิจก็อยากเล่นตามกติกา

โจนาธาน ลาร์เซน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผิงอัน กรุ๊ป โวเยเจอร์ ฟันด์ กองทุนร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพ กล่าวว่า คริปโตเคอเรนซีเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีมาแรงของโลกการเงิน เป็นส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ โดย คริปโตเคอเรนซี เป็นเหมือนสินทรัพย์ที่ผ่านการเข้ารหัสมาแล้ว ปัจจุบันอาจยังไม่ถูกกฎหมายหลายประเทศ แต่ภาคธุรกิจไม่มีข้อสงสัยในแง่โอกาสที่จะเกิดจากคริปโตเคอเรนซี หากสิ่งนี้มีมูลค่า จะเป็นช่องทางช่วยขยายการลงทุนได้อีกมาก แต่ถ้าต้องการให้คริปโตเคอเรนซีเป็นที่ยอมรับ ต้องทำให้เกิดความโปร่งใสในการซื้อขาย

ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ให้ความเห็นส่วนตัวว่า ถึงอย่างไร ไทยคงปิดกั้นคริปโตเคอเรนซีไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่อนาคตโลกหนีไม่พ้น ต่อไปเงินอาจไม่ใช่กระดาษ อาจเป็นคริปโตเคอเรนซี ซึ่งการที่ทางการออกกฎคุมเวลานี้ ก็ดีกว่าไม่คุมเลย ดีกว่าปิดกั้นทั้งหมด เพราะเมื่อควบคุม จะดูแลการยืนยันตัวตนผู้เข้าสู่วงจรคริปโตเคอเรนซีได้

คริปโตเคอเรนซีไม่ใช่ปีศาจร้าย แต่อยู่ที่คนว่านำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์หรือทางที่ผิด การมีกฎหมายควบคุมที่เอื้อให้ธุรกรรมคริปโตเคอเรนซี ทำได้เปิดเผย เป็นทางหนึ่งที่สกัดคนใช้ฟอกเงินหรือทำผิดได้ ขณะที่หาก ทุกฝ่ายอยากสร้างเทคโนโลยีการเงินเปลี่ยนโลก ไม่ว่าประเด็นใด ทางที่ดีทำงานกับหน่วยงานกำกับแต่ต้น เดินด้วยกันดีที่สุด