ไทยพาณิชย์ให้กู้บ้านภูธร ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเคหะโตปีนี้ 4%

ไทยพาณิชย์เปิดแผนสินเชื่อบ้าน จับมือผู้ประกอบการบุกตลาดต่างจังหวัด ตั้งเป้าปีนี้โต 4%

น.ส.จามรี เกษตระกูล รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า กลยุทธ์สินเชื่อบ้านปี 2561 จะขยายฐานไปต่างจังหวัดมากขึ้น โดยธนาคารจะจับมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (ดีเวลอปเปอร์) ให้เงินกู้โครงการ เน้นจังหวัดในหัวเมืองใหญ่ก่อน

“เราเห็นโอกาสจากพื้นที่ต่างจังหวัดยังมีคนเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินอยู่มาก ที่ผ่านมาสินเชื่อบ้านไทยพาณิชย์กระจุกตัวใน กทม.เป็นส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน จึงต้องการเพิ่มฐานกลาง-ล่างมากขึ้น แต่ในแง่สัดส่วนสินเชื่อ กทม.-ต่างจังหวัดอาจยังขยับไม่ได้มาก ด้วยพอร์ตใหญ่ จึงอาจเห็นสัดส่วนต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเพียง 1-2%” น.ส.จามรี กล่าว

สำหรับแผนปีนี้ตั้งเป้าสินเชื่อบ้านเติบโตมากกว่าปีที่แล้ว หรือจาก 3.2% มาเป็น 4% เป็นสินเชื่อปล่อยใหม่ทุกประเภทที่เกี่ยวกับบ้านอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท คาดว่าสินเชื่อที่โตมากปีนี้ คือ มายโฮมมายแคช จะเติบโตถึง 20% เพราะฐานต่ำ จากปีที่แล้วปล่อยได้ 1 หมื่นล้านบาท โตประมาณ 20% เช่นกัน ปัจจุบันพอร์ตมายโฮมมายแคชอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว จากความเชื่อมั่นเริ่มดีขึ้น ภาครัฐเริ่มลงทุน โครงการต่างๆ ทั้งก่อสร้างรถไฟฟ้าและระบบคมนาคม ส่งผลดีต่อสินเชื่อบ้านด้วย ขณะที่การแข่งขันสินเชื่อบ้านยังรุนแรงอยู่ มีการรีไฟแนนซ์ออก และรีไฟแนนซ์เข้า ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ก็พยายามเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้

ทางด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 2.8% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่กังวล เพราะเป็นเอ็นพีแอลจากสินเชื่อที่ปล่อยไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เป็นเอ็นพีแอลพีกในปี 2560 พอดี ขณะที่สินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีเอ็นพีแอลต่ำ ทำให้สบายใจในแง่คุณภาพสินเชื่อ และมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาคุณภาพหนี้ที่นอกเหนือความคาดหมาย

“ฐานลูกค้าระดับกลางถึงล่าง หรือราคา 2-3 ล้านบาท ที่มีคุณภาพดีก็เยอะ เราไม่ได้มีนโยบายเลือกลูกค้าที่ฐานราคาบ้าน เน้นดูคุณภาพลูกหนี้มากกว่า แต่การที่เราใช้เกณฑ์พิจารณาเดียวกันทุกประเภท ซึ่งอาจทำให้กลุ่มล่างกู้ไม่ผ่านได้ ปัจจุบันอัตราอนุมัติอยู่ที่ 70-80%” น.ส.จามรี กล่าว

น.ส.จามรี กล่าวอีกว่า ธนาคารอยู่ระหว่างพัฒนาแอพพลิเคชั่นขอสินเชื่อบ้านและมายโฮมมายแคชผ่านดิจิทัล (ดิจิทัลเลนดิ้ง) น่าจะเห็นเร็วๆ นี้ โดยจะเริ่มจากลูกค้าเดิมของธนาคารก่อนเพราะมีข้อมูลอยู่แล้ว ระยะต่อไปจึงเป็นลูกค้าใหม่ อย่างไรก็ตามประเมินยากว่าสินเชื่อจะเพิ่มมากน้อยเพียงใดจากดิจิทัลเลนดิ้ง แต่สิ่งสำคัญคือการเพิ่มความสะดวกมากขึ้นแก่ลูกค้า มีช่องทางใหม่ อีกทั้งทำให้โอกาสอนุมัติสินเชื่อเพิ่มขึ้นเพราะลูกค้าเดิมที่มีข้อมูลอยู่แล้ว รู้จักลูกค้าอย่างดีทำให้อนุมัติได้เร็ว