posttoday

ธพว.อัดสินเชื่อเต็มสูบ

02 มีนาคม 2561

ธพว.สั่งอัพสินเชื่อเพิ่มอีก 100% เป็น 7 หมื่นล้าน หลังออกแผนฟื้นฟู

ธพว.สั่งอัพสินเชื่อเพิ่มอีก 100% เป็น 7 หมื่นล้าน หลังออกแผนฟื้นฟู

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการ ผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เปิดเผยว่า ธพว.ได้ปรับเป้าหายการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นอีก 100% หรือเพิ่มขึ้นจาก 3.5 หมื่นล้านบาท เป็น 7 หมื่นล้านบาท ในปีนี้เป้าหมายสำคัญของการปล่อยสินเชื่อ ของ ธพว. คือ เรื่องเศรษฐกิจชุมชน หรือ LocalEconomy ถือเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจท้องถิ่นที่ยังขาดการพัฒนา จึงต้องการยกระดับอาชีพชุมชน

ในขณะเดียวกันจะช่วยด้านการพัฒนาเกษตรแปรรูปการยกระดับคือ การใส่เครื่องมือ ใส่เทคโนโลยี นวัตกรรม เป็นการย่อส่วน SME 4.0 ลงมาเป็นสเกลระดับท้องถิ่น

นายมงคล กล่าวว่า ธพว.มีสิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมคือ เรื่องช่องทางการจัดจำหน่าย การหาตลาด การพัฒนามาตรฐานสินค้า ให้คนเชื่อถือ ซึ่งสามารถจะเจาะตลาดลูกค้ารายใหม่ๆ ได้

พร้อมกันนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังมีการจัดมาตรฐานต่างๆ เช่น การออกหนังสือค้ำประกันของผู้ที่ขอใบอนุญาตท่องเที่ยวในทุกสมาคม เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการกว่า 1.1 หมื่นราย ซึ่งในจำนวนนี้มากกว่า 80% ยังไม่มีการทำบัญชีเดียว บัญชีรับจ่าย และยังไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานใด ทั้งนี้หากสามารถรับรองผู้ประกอบการกลุ่มนี้ได้ ก็จะช่วยให้คนเหล่านี้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ธพว.เตรียมสินเชื่อเศรษฐกิจชุมชน ไว้รองรับลูกค้ากลุ่มนี้ มีวงเงิน 5.8 หมื่นล้านบาท แยกเป็นการปล่อยสินเชื่อผ่านระบบสาขา 3.4 หมื่นล้านบาท และการปล่อยสินเชื่อให้ชุมชน

"ตอนนี้ได้เริ่มชุมชนต่างๆ แล้วกว่า 300 ชุมชน จากทั้งหมดราว 1,000 ชุมชน เพื่อดูว่าแต่ละชุมชนทำอาชีพอะไร มีความพร้อมอย่างไร ซึ่ง ธพว.ได้กำหนดเกณฑ์ในการชี้วัด นำไปสู่การให้ความช่วยเหลือชุมชนไว้ 7 ขั้นตอน เช่น ก่อนที่จะได้รับ สินเชื่อต้องผ่านขั้นตอนที่ 4 ให้ได้ก่อน โดยในขั้นตอนที่ 3 จะวัดดูที่เรื่องศักยภาพ การรวมตัวกันได้ แต่ยังขาดเรื่องการจัดการ การตลาด เป็นต้น" นายมงคล กล่าว

สำหรับเป้าหมายของการให้สินเชื่อเศรษฐกิจชุมชน จะไม่ทำแต่เพียงการปล่อยกู้ แต่จะต้องเข้าไปดูเรื่องการยกระดับชุมชน พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ช่วยหาช่องทางการตลาด เพราะขณะนี้และอีก 1-2 ปีจากนี้ สภาพแวดล้อมการทำธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปมาก ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวให้รับกับเทคโนโลยี และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย