รัฐวิสาหกิจส่งเงินเกินเป้า 35%

รัฐวิสาหกิจส่งรายได้ 4 เดือน สูงกว่าเป้า 35% ดันรายได้แผ่นดินสะสมเพิ่ม

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในเดือน ม.ค. 2561 สคร.จัดเก็บรายได้แผ่นดินจำนวน 7,252 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายการจัดเก็บรายได้แผ่นดินจำนวน 3,357 ล้านบาท ส่งผลให้มีรายได้แผ่นดินสะสม 4 เดือน จำนวน 5.06 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายรายได้แผ่นดินสะสมจำนวน 1.29 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 35% ซึ่งมีส่วนช่วยรักษาเสถียรภาพการคลังของประเทศ

สำหรับรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้ สะสมสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ธนาคารออมสิน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และธนาคารอาคารสงเคราะห์ อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าการนำส่งรายได้ แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจมีการนำส่งที่สูงกว่าเป้าหมายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2561 เนื่องจากประสิทธิภาพการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจที่เพิ่มขึ้น โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมมาปรับปรุงกระบวนการทำงาน ส่งผลให้ผลประกอบการของรัฐวิสาหกิจดีขึ้น

นายเอกนิติ กล่าวว่า ในปีงบ ประมาณ 2561 สคร.ได้มีนโยบาย สนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ผ่านแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 ทำให้รัฐวิสาหกิจ มีผลประกอบการที่ดียิ่งขึ้นและสามารถนำส่งรายได้แผ่นดินเป็นไปตามเป้าหมายการจัดเก็บตามเอกสารงบประมาณ 2561 ที่กำหนดไว้จำนวน 1.37 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพการคลังของประเทศด้วย

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้สหภาพการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยื่นร้องระงับโครงการระดมทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่ออนาคตประเทศไทย หรือไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ (TFF) กับศาลปกครองสูงสุด เมื่อรอการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดตามขั้นตอน คาดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนกำหนดการเดิม ในการระดมทุนเปิดขายกองทุนของ กทพ. เพื่อใช้ เงินลงทุนก่อสร้างทางด่วน 2 เส้นทางได้ก่อนเดือน ก.ค.นี้อย่างแน่นอน ดังนั้น การกู้เงินหลังกลางปีจึงสอดคล้องกับแผนกู้เงิน  ซึ่งการระดมทุนด้วยกองทุนนี้จะไม่ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ กทพ.ต้องการเงินลงทุนก่อสร้างโครงการ 2 เส้นทาง คือ ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนองกับทางด่วนขั้นที่ 3 ซึ่งตอม่ออยู่กลางเกษตร-นวมินทร์ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท แต่ปีแรกต้องใช้เงินไม่สูงมากนัก คาดว่าเริ่มลงทุนได้ในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป