กรมศุลตรวจเข้มภาษีรถหรู

กรมศุลเข้มปล่อยรถหรู อุดช่องเลี่ยงเสียภาษีนำเข้าต่ำ หลัง ป.ป.ช.จับตาใกล้ชิด

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้มีรถหรู 958 คัน ที่ยังไม่สามารถนำออกไปจากคลังสินค้าของกรมศุลกากรได้ เนื่องจาก กรมศุลกากรเข้มงวดในเรื่องการปลดปล่อยรถ เป็นผลมาจากทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตรวจสอบการทำงานของกรมศุลกากรเรื่องนี้อยู่ ดังนั้น จะต้องทำงานให้รอบคอบ ตามระเบียบการดำเนินการ 317 ซึ่งเป็นเกณฑ์การตรวจสอบการนำเข้ารถหรูของกรมศุลกากร

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้ประชุมตกลงกันว่า หากไม่ใช่รถหรู 4 ยี่ห้อ ปอร์เช่ แลมโบร์กินี เฟอร์รารี และมาเซราติ ที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งมาว่ามีปัญหาการสำแดงราคาต่ำเสียภาษีไม่ถูกต้อง ให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ราคาเบื้องต้นโดยคำนวณ จากเว็บไซต์ และราคาขายตลาดให้ ครบถ้วน มาเปรียบเทียบสำแดงนำเข้า หากราคาอยู่ในกรอบก็นำรถเสียภาษีออกไปได้ แต่หากต่ำกว่ากรอบก็ต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม หากผู้นำเข้าจะนำรถออกไปก็ต้องวางประกันภาษีให้ครบถ้วน

นอกจากนี้ จะให้ผู้นำเข้าทำหนังสือรับรองด้วยว่าราคานำเข้าเป็นราคาซื้อขายที่แท้จริง หากนำเข้าราคาต่ำกว่าเป็นจริง ผู้นำเข้าจะมีความผิดต้องจ่ายภาษีให้ครบ โดยรถที่ค้างอยู่กว่า 958 คัน เป็นรถที่อยู่ใน 4 ยี่ห้อ ที่ดีเอสไอไปตรวจสอบ 300 กว่าคัน

สำหรับรถที่อยู่ใน 4 ยี่ห้อ ที่มีราคาวิเคราะห์เบื้องต้นจากทางดีเอสไอ เคยส่งมาว่าต่ำกว่าราคาเว็บไซต์ 5-57% ทางกรมศุลกากรก็จะใช้ราคาของ ดีเอสไอเป็นฐานของราคาสำแดงนำเข้า เพื่อให้การเก็บภาษีได้สอดคล้องกับความเป็นจริง

"การปลดปล่อยรถที่ค้างอยู่ 958 กว่าคัน จะดูเป็นรายคัน บางส่วนได้มีการนำออกไปแล้ว โดยเฉพาะรถญี่ปุ่นที่ไม่ได้เป็น 4 ยี่ห้อที่มีปัญหา สำหรับมาตรการใหม่ที่ออกมาจะสามารถปล่อยรถได้อีก 500 คัน" นายกุลิศ กล่าว

อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวอีกว่า คดีรถหรูจ่ายภาษีไม่ครบที่ทางดีเอสไอส่งมาให้กรมศุลกากรดำเนินการ 1,400 คัน มูลค่าภาษี 4,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างการติดตามเก็บภาษีที่จ่ายไม่ครบอยู่ ยังไม่สามารถเก็บภาษีคืนมาได้

แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคดีที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอจำนวน 134 คดี คาดว่าจะสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้ภายในเดือน ม.ค.นี้