posttoday

นายกฯสั่งธปท.ดูแลค่าบาท

20 มกราคม 2561

นายกฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุยปัญหาค่าเงิน มอบ ธปท.ดูแลอย่างเข้มข้น แต่ห้ามแทรกแซงอย่างไม่มีเหตุผล หอการค้าห่วงแข็งเร็วเกินไป

นายกฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุยปัญหาค่าเงิน มอบ ธปท.ดูแลอย่างเข้มข้น แต่ห้ามแทรกแซงอย่างไม่มีเหตุผล  หอการค้าห่วงแข็งเร็วเกินไป

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเกี่ยวกับการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีข้อสั่งการว่า ให้ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเข้มข้น แต่ไม่ให้เข้าไปแทรกแซงอย่างไม่มี เหตุผล

อย่างไรก็ตาม ไทยไม่ได้มองว่าการที่สหรัฐได้ระบุว่าหลายประเทศรวมถึงไทยได้ใช้นโยบายแทรกแซงตลาดจนสามารถเกินดุลการค้ากับสหรัฐ เป็นการกล่าวที่ไม่เป็นธรรม แต่เชื่อว่าทุกประเทศมีเหตุผลเชิงนโยบาย แต่ไทยเองก็ยืนยันว่าได้ดำเนินการทุกอย่างอย่างโปร่งใสในทางที่ถูกต้อง

"เรายินดีจะให้สอบถามได้อยู่แล้ว และไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแฟร์ หรือไม่แฟร์อะไร ก็เศรษฐกิจเรากำลังขึ้น ค่าเงินแข็งค่าขึ้น ส่วนหนึ่งก็ต้องดูแลไม่ให้ผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อยถูกกระทบ ก็ต้องดูไม่ให้มีการแข็งค่าขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล เชื่อว่าสหรัฐรู้อยู่แล้วว่าขณะนี้เศรษฐกิจไทยกำลังดีขึ้น และเศรษฐกิจทั่วเอเชียก็ไปในทิศทางเดียวกัน และไทยมองว่าสหรัฐเป็นพันธมิตร" นายสมคิด กล่าว

ด้านการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท นักวิเคราะห์มองว่ายังมีโอกาสจะแข็งค่าได้อีก โดยจุดสำคัญต่อไปที่ต้องจับตา คือ หากเงินบาทแข็งค่าไปแตะระดับ 31.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อาจมีผลทางจิตวิทยาทำให้เงินบาทแข็งค่าหลุดไปถึงระดับ 31.60 บาท/ดอลลาร์

นักค้าเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เหตุผลที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นมามาก เพราะนักลงทุนกังวลในความไม่แน่นอนของการเมืองสหรัฐมากขึ้น มองว่าอาจนำไปสู่การเกิดปัญหาชัตดาวน์ จากการไม่ผ่านงบประมาณรายจ่ายประจำปี จนทำให้เกิดปัญหาต้องปิดส่วนราชการบางแห่งชั่วคราว จึงทำให้เงินทุนยังไหลเข้ามาในเอเชียต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งพักอยู่ในพันธบัตรรัฐบาลไทย

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทยังมีโอกาสจะ แข็งค่าได้อีก โดยจุดสำคัญต่อไปที่ต้องจับตา คือ หากเงินบาทแข็งค่าไปแตะระดับ 31.75 บาท/ดอลลาร์ อาจมีผลทางจิตวิญญาณสำคัญทำให้เงินบาทแข็งค่าหลุดไปถึงระดับ 31.60 บาท/ดอลลาร์

สำหรับกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) ส่งสัญญาณว่าจับตานักลงทุนที่เข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาทอยู่นั้น ก็มีส่วนช่วยลดแรงกดดันเงินบาทแข็งค่าได้บ้าง แต่โดยรวมทิศทางเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อไป เพราะปัจจัยผสมโรง 2 เรื่องด้วยกัน คือ ประเด็นสหรัฐ และประเด็นการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าเร็วเกินไปจนกระทบกับผู้ส่งออกเพิ่มมากขึ้น หากค่าเงินบาทแข็งค่าผ่านระดับ 31.50 บาท/ดอลลาร์ไปได้ จนส่งผลกระทบกับการส่งออกและเศรษฐกิจอย่างมาก

"ธปท.ควรทบทวนการดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่ง ธปท.ควรแทรกแซงค่าเงินบาททั้งด้วยวาจา และการเข้าแทรกแซงโดยตรง หากไม่ได้ผลก็ควรพิจารณาว่าต้องมีมาตรการเพิ่มหรือไม่" นายธนวรรธน์ กล่าว

บลูมเบิร์กรายงานอ้างธนาคารเครดิต อะกริโกล ของฝรั่งเศส ว่า ค่าเงินของกลุ่มประเทศเอเชียที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้ากลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ 1.77 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.64 แสนล้านบาท ในช่วง 1 สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ม.ค. คิดเป็นมูลค่ามากที่สุดในรอบสัปดาห์นับตั้งแต่ปี 2555

ด้าน นายอึ้งเค็งเซียง นักวิเคราะห์ฝ่ายตราสารหนี้จากสเตท สตรีท โกลบอล แอดไวเซอร์ บริษัทบริหารจัดการการลงทุนในสิงคโปร์ กล่าวว่า การแข็งค่า ของค่าเงินเอเชียและทิศทางการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวด จะส่งผลให้เงินไหลเข้าตลาดตราสารหนี้เอเชียมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และจีน