ธปท.ลดแรงกดดันเงินบาทแข็งค่า

ธปท.ผ่อนคลายโอนเงินบาทออกต่างประเทศเพิ่มจาก 2 แสน เป็น 8 แสน/ราย ลดแรงกดดันเงินบาทแข็งค่า

น.ส.วชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกประกาศผ่อนคลายหลักเกณฑ์ภายใต้โครงการปฏิรูปกฎเกณฑ์ควบคุม การแลกเปลี่ยนเงินเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศของภาคเอกชน (Ease of doing business) เพิ่มเติม โดยเพิ่มวงเงินให้ลูกค้าของผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการโอนเงินออกเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น เพื่อชำระค่าสินค้าบริการในต่างประเทศ ได้จากเดิม ไม่เกิน 2 แสนบาท/วัน/รายลูกค้า เป็นไม่เกิน 8 แสนบาท/วัน/รายลูกค้า

ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.เป็นต้นไป ผู้ประกอบการจะต้องปรับปรุงเอกสารหลักฐานการยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจตัวแทนโอนเงินด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้ประกอบการ

แหล่งข่าวจากสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า การผ่อนคลายหลักเกณฑ์วงเงินโอนออกนอกประเทศนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ใช้บริการทั่วไปมีทางเลือกโอนเงิน และโอนเงินไปต่างประเทศคล่องตัวขึ้น ช่วยส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการจึงช่วยลดต้นทุนการโอนเงินระหว่างประเทศให้ลูกค้า และเป็นการทำให้เงินไหลออกนอกประเทศสะดวกขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ลดแรงกดดันที่เงินบาทแข็งค่าได้อีกทางหนึ่ง

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีเงินบาทที่แข็งค่าช่วงนี้ว่า ธปท.กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดูแลอยู่ไม่ให้เคลื่อนไหวผิดปกติ ทั้งนี้ เรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าเกิดจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำให้ค่าเงินหลายประเทศแข็งค่า รวมถึงประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ด้วย

น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้บริหารฝ่ายวิเคราะห์ตลาดการเงิน ธนาคารกรุงศรี อยุธยา กล่าวว่า ค่าเงินบาทวันที่ 15 ม.ค. อยู่ที่ 31.90-31.96 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ยังเป็นทิศทางแข็งค่าอยู่ โดยการแข็งค่าสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาครวมถึงเงินสกุลหลักในโลก ส่วนค่าเงินบาทวันที่ 16 ม.ค. ประเมินว่ายังมีทิศทางแข็งค่าเพราะยังมีเงินทุนไหลเข้าลงทุนตราสารหนี้ต่อเนื่องจากการที่สหรัฐประกาศตัวเลขเงินเฟ้อดีกว่าคาดแต่ไม่เพียงพอสนับสนุนเงินดอลลาร์ฟื้นตัว