posttoday

เริ่มรีดภาษีเข้ากองทุนคนชรา

06 มกราคม 2561

เริ่มเก็บภาษีบาปเข้ากองทุนผู้สูงอายุ 27 ม.ค.นี้ คาดไม่กระทบราคาบุหรี่เพิ่มขึ้น เร่งออกกม.คุมวินัยการเงินการคลัง

เริ่มเก็บภาษีบาปเข้ากองทุนผู้สูงอายุ 27 ม.ค.นี้ คาดไม่กระทบราคาบุหรี่เพิ่มขึ้น เร่งออกกม.คุมวินัยการเงินการคลัง

แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งในกฎหมายกำหนดให้เก็บภาษีสรรพสามิตในอัตรา 2% ของภาษีที่เก็บจากสินค้าสุรา เบียร์ และบุหรี่ โดยสูงสุดไม่เกิน 4,000 ล้านบาท/ปี โดยจะเริ่มเก็บเข้ากองทุนในวันที่ 27 ม.ค. 2561

ทั้งนี้ การเก็บภาษีบาปเข้ากองทุนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น คาดว่าจะไม่กระทบกับราคาสินค้าบาป โดยเฉพาะราคาบุหรี่ เพราะเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการรู้และเตรียมการมานานหลายเดือน โดยการเก็บภาษีบุหรี่เข้ากองทุนจะทำให้บุหรี่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่ำซองละ 75 สตางค์ขึ้นไป เชื่อว่าผู้ประกอบการคงยอมกำไรลดลง เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้

ก่อนหน้านี้วันที่ 16 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา พ.ร.บ.สรรพสามิตใหม่มีผลบังคับใช้ มีการเปลี่ยนฐานราคาเก็บภาษีจากราคาหน้าโรงงาน หรือราคาสำแดงนำเข้า มาเป็นราคาขายปลีก โดยมีการเก็บภาษีสินค้าทั้งปริมาณและมูลค่า ทำให้สินค้าบุหรี่มีการปรับตัวด้านราคาแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น

สำหรับกองทุนผู้สูงอายุ นอกจากได้รับเงินจากภาษีบาปทุกปีแล้ว กฎหมายยังเปิดให้รับบริจาคจากประชาชนและผู้ประกอบการได้อีกด้วย เพื่อไปช่วยผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระทรวงการคลังได้เร่งผลักดัน พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพราะจะกำหนดไม่ให้หน่วยงานต่างๆ ตั้งกองทุนเพื่อรับเงินภาษีบาปได้อีกต่อไป ต้องขอจากงบประมาณเท่านั้น เพื่อเป็นการรักษาวินัยการเงินการคลัง

ปัจจุบัน กองทุนที่ได้รับเงินจากภาษีบาป ประกอบด้วย กองทุน 2% ไม่จำกัดเพดาน โทรทัศน์ไทยพีบีเอส 1.5% แต่ไม่เกิน 2,000 ล้านบาท และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ อีก 2% ไม่จำกัดเพดาน ล่าสุด กองทุนคนชรา 2% ไม่เกิน 4,000 ล้านบาท

สำหรับการเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตปีงบประมาณ 2561 ในช่วง 2 เดือนแรก เก็บได้ 7 หมื่นล้านบาท สูงกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ 3,613 ล้านบาท หรือ 5.4% แต่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 16.9% โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายได้แก่ ภาษีเบียร์ 1,969 ล้านบาท หรือ 43.6% ภาษีรถยนต์ 1,302 ล้านบาท หรือ 7.9% และภาษีน้ำ 364 ล้านบาท หรือ 1.5% โดยเป้าเก็บภาษีทั้งปีของกรมสรรพสามิตอยู่ที่ 6 แสนล้านบาท