posttoday

ไทยแห่ลงทุนนอก5.9หมื่นล.

02 มกราคม 2561

ไทยยังแห่ลงทุนผ่านกองทุนรวมลงทุนต่างประเทศ ต.ค.ยอดคงค้าง 5.19 หมื่นล้าน กนง.หวั่นประเมินความเสี่ยงต่ำเกินจริง กระจุกตัวลงทุน

ไทยยังแห่ลงทุนผ่านกองทุนรวมลงทุนต่างประเทศ ต.ค.ยอดคงค้าง 5.19 หมื่นล้าน กนง.หวั่นประเมินความเสี่ยงต่ำเกินจริง กระจุกตัวลงทุน

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากสถิติยอดคงค้างเงินลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุนรวมล่าสุดเดือน ต.ค. 2560 พบว่ายอดคงค้างสูงถึง 5.19 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 9,195 ล้านดอลลาร์ จากเดือน ม.ค. 2560 ที่มียอดคงค้าง 4.27 หมื่นล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความต้องการไปลงทุนในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามยอดคงค้างดังกล่าวก็ลดลงมาเล็กน้อยจากเดือน ก.ย. ที่เคยมียอดคงค้างสูงถึง 5.33 หมื่นล้านดอลลาร์

เมื่อพิจารณารายภูมิภาคจะพบว่าเงินลงทุนในต่างประเทศของกองทุนไปอยู่ในสหภาพยุโรปสูงที่สุด 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากเดือน ม.ค. ซึ่งมีอยู่ 8,890 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยฮ่องกง 7,499 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดือน ม.ค. อยู่ที่ 5,793 ล้านดอลลาร์ อันดับ 3 คือ จีน 5,744 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค. อยู่ที่ 2,905 ล้านดอลลาร์ ส่วนในสหรัฐอเมริกามียอดคงค้างลงทุน 4,232 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่มียอด 2,780 ล้านดอลลาร์

ขณะที่การลงทุนในอาเซียนมียอดคงค้างอยู่ 2,659 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากเดือน ม.ค. มียอดคงค้าง 3,568 ล้านดอลลาร์ โดยยอดลงทุนเพิ่มขึ้นในประเทศมาเลเซียและเวียดนาม แต่การลงทุนในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ลดลง

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วย ผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวว่า กนง.ยังติดตามพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (เสิร์ช ฟอร์ ยิลด์) ต่อไป เนื่องจากเห็นว่ามูลค่าการลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุนรวมยังขยายตัวต่อเนื่อง และอาจมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของการลงทุนในไม่กี่ประเทศ

"พฤติกรรมเสิร์ช ฟอร์ ยิลด์ เช่น คนนำเงินไปฝากสหกรณ์มาก แต่ก็เริ่มชะลอตัวแล้ว หรือการที่นักลงทุนนำเงินไปลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นจากการติดตามรายงาน พบว่า การไปลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุนรวมที่เคยเห็นการขยายตัวเร็ว ก็เริ่มชะลอตัวบ้างในช่วงหลังแล้ว แต่การลงทุนก็ยังกระจุกตัวในไม่กี่ประเทศอยู่" นายจาตุรงค์ กล่าว

ทั้งนี้ เสิร์ช ฟอร์ ยิลด์ เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับภาวะดอกเบี้ยต่ำนานๆ ทำให้คนต้องหาช่องทางลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น แต่สิ่งที่ กนง.ห่วงคือการประเมินความเสี่ยงต่ำเกินไป ซึ่งก็คงต้องติดตามดูสถานการณ์ต่อไป