posttoday

เงินบาทแข็งปึ้ก ทุบสถิติ30เดือน

18 พฤศจิกายน 2560

เงินบาทแข็งสุดรอบ 30 เดือน หลุด 33 บาท/ดอลลาร์ ลุ้นมีปัจจัยส่งผลให้แข็งค่าได้ต่อในระยะใกล้

เงินบาทแข็งสุดรอบ 30 เดือน หลุด 33 บาท/ดอลลาร์ ลุ้นมีปัจจัยส่งผลให้แข็งค่าได้ต่อในระยะใกล้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทแข็งค่าทะลุระดับ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 32.83 บาท/ดอลลาร์ นับเป็นสถิติแข็งค่าที่สุดในรอบ 30 เดือน สอดคล้องกับกระแสการแข็งค่าของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย เนื่องจากทิศทางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงนี้ขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม หลังจากตลาดรับรู้โอกาสของการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือน ธ.ค.แล้ว รวมถึงแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐที่ยังอยู่ระหว่างการหาข้อสรุปร่วมกันในสภาคองเกรส

ด้านปัจจัยฝั่งเงินบาท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลอย่างต่อเนื่องของไทย นับเป็นปัจจัยเชิงโครงสร้างสำคัญที่หนุนให้เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางที่แข็งค่า ทั้งที่เศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวอย่างเปราะบาง การใช้จ่ายในประเทศยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ส่งผลต่อเนื่องให้การฟื้นตัวของการนำเข้ายังคงอยู่ในกรอบจำกัดด้วยเช่นกัน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เงินบาทอาจจะยังมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบที่แข็งค่ากว่าระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์ได้อีก โดยคาดว่าทิศทางของค่าเงินบาทในไตรมาสสุดท้ายของปี ยังน่าจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่สอดคล้องกับธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ ขณะที่สถานการณ์การลงทุนของนักลงทุนต่างชาติก็อาจจะทยอยชะลอลงในช่วงนับถอยหลังเข้าสู่ช่วงสิ้นปี

อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ยังคงจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด จะเป็นเรื่องความคืบหน้าเกี่ยวกับการผลักดันแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐในสภาคองเกรส ตลอดจนสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในปีหน้า

สำหรับปัจจัยที่กำหนดทิศทางของเงินบาทในปีหน้านั้น มองว่า ปัจจัยพื้นฐานจากดุลบัญชีเดินสะพัดที่ยังมีโอกาสเกินดุลต่อเนื่อง ที่ประมาณ 38.6 พันล้านดอลลาร์ ตามตัวเลขคาดการณ์ของ ธปท.อาจจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนทิศทางเงินบาท เพราะแม้เงินดอลลาร์จะยังมีโอกาสกลับมาแข็งค่าได้ในช่วงปีข้างหน้า ตามสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งยังมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและทยอยลดงบดุล และอาจมีแรงหนุนเพิ่มเติมหากแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐสามารถหาข้อสรุปที่ลงตัวได้

ด้านปัจจัยหนุนค่าเงินดอลลาร์ทั้งสองเรื่องนั้น ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเรื่องจังหวะเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในระหว่างปี และช่วงเวลาที่จะเริ่มเห็นความชัดเจนของการเดินหน้าได้จริงตามแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ดังนั้นความผันผวนของสถานการณ์ค่าเงินดอลลาร์ จึงยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ภาคธุรกิจจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน