posttoday

กรมธนารักษ์ต่อสัญญาเช่าไทยออยล์30ปี

18 พฤศจิกายน 2560

กรมธนารักษ์ ตัดสินต่ออายุสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้บริษัท ไทยออยล์ 30 ปี เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและดึงเงินลงทุนดันเศรษฐกิจ

กรมธนารักษ์ ตัดสินต่ออายุสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้บริษัท ไทยออยล์ 30 ปี เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและดึงเงินลงทุนดันเศรษฐกิจ

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 พ.ย.2560 นี้ กรมธนารักษ์จะประชุมกับบริษัท ไทยออยล์ เพื่อหารือสัญญาค่าเช่าใหม่ หลังจากสัญญาเดิมระยะเวลา 30 ปีจะหมดอายุในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือในปี 2565 โดยพื้นที่ให้เช่าใช้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน บริเวณ ต.บางพระและทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีเนื้อที่ 1,499 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่โรงกลั่น 1,378 ไร่ และพื้นที่ที่เป็นบ้านพักพนักงาน 121 ไร่

ทั้งนี้ กรมธนารักษ์จะต่อสัญญา ฉบับใหม่ให้กับบริษัท ไทยออยล์ ไปอีก 30 ปี เพื่อให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และดึงดูดเอกชนเข้ามาทำกิจการ โดยค่าเช่าตลอดอายุสัญญาเบื้องต้น คิด อยู่ที่กว่า 1 หมื่นล้านบาท/ปี ซึ่งเป็น ราคาที่สูงกว่าขั้นต่ำ 9,200 ล้านบาท/ปี ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไทยออยล์ต้องจ่ายขั้นต่ำงวดแรก 30% สำหรับการจ่ายรายปีจะมีการเปิดเผยหลังเซ็นสัญญา

ที่ผ่านมา ครม.มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2559 ให้กรมธนารักษ์ ต่ออายุสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ให้กับ บริษัท ไทยออยล์ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การให้เอกชนร่วมลงทุนใน กิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พีพีพี) เพื่อดำเนินกิจการโรงกลั่นน้ำมันเป็นระยะ เวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. 2565-10 ก.ย. 2595 เนื้อที่ 1,499-3-26 ไร่ พร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน จำนวน 80 รายการ โดยสัญญาเช่าที่ ราชพัสดุเดิมจะสิ้นสุดลงในวันที่ 10 ก.ย. 2565

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการพีพีพี ได้กำหนดให้กรมธนารักษ์จัดให้มีการ ประเมินมูลค่าตลาดของค่าเช่าโดยผู้ประเมินอิสระ ก่อนการกำหนดผลประโยชน์ตอบแทนในการให้เช่าที่ราชพัสดุ เพื่อประโยชน์สูงสุดของรัฐ โดยการต่อระยะเวลาการเช่าที่ราชพัสดุนี้เป็นไปตาม การเสนอของบริษัท ไทยออยล์ ที่จะรองรับการลงทุนเพิ่มเติมของบริษัทประมาณ 1.2 แสนล้านบาท และจะสร้างความ ต่อเนื่องในการดำเนินกิจการของภาครัฐ มีส่วนช่วยสนับสนุนความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ