posttoday

เศรษฐกิจไทยดีติดอันดับ

18 พฤศจิกายน 2560

คลังปลื้มสภาเศรษฐกิจโลกจัดอันดับการดูแลเศรษฐกิจของไทยอันดับ 1 ของอาเซียน และอันดับ 9 ของโลก เรียกเชื่อมั่นนักลงทุน

คลังปลื้มสภาเศรษฐกิจโลกจัดอันดับการดูแลเศรษฐกิจของไทยอันดับ 1 ของอาเซียน และอันดับ 9 ของโลก เรียกเชื่อมั่นนักลงทุน

นายศรพล ตุลยะเสถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยว่า สภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) ได้ประกาศผลการจัดอันดับความสามารถทาง การแข่งขันของประเทศต่างๆ รวม 137 ประเทศทั่วโลก สำหรับปี 2017-2018 โดยการจัดอันดับด้านการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคไทยได้อันดับ 1 ของกลุ่มประเทศอาเซียน ดีกว่าประเทศสิงคโปร์ที่ได้อันดับ 18 ฟิลิปปินส์ อันดับ 22 อินโดนีเซีย อันดับ 26 มาเลเซีย อันดับ 34 และเวียดนาม อันดับ 77

นอกจากนี้ อันดับด้านการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคไทย ยังอยู่อันดับ 9 ของโลก โดยที่ได้อันดับ 1 คือ ประเทศนอร์เวย์ โดยประเทศเอเชียที่ได้อันดับดีกว่าไทยมีประเทศเกาหลีใต้ได้อันดับ 2 ไต้หวันอันดับ 5 และฮ่องกง อันดับ 6

สำหรับอันดับความสามารถทาง การแข่งขันของประเทศ ได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็นอันดับที่ 32 จากปีก่อนหน้าอยู่ที่อันดับ 34

นายศรพล กล่าวว่า อันดับด้าน การดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคไทยดีขึ้นเพราะไทยรักษาวินัยการคลังโดยการขาดดุลงบประมาณไม่เกิน 3% ต่อจีดีพี อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำสอดคล้องอัตราการว่างงานที่ต่ำ ฐานะการคลังที่มั่นคงทำให้รักษาระดับเครดิตเรตติ้งไว้ได้ อัตราการออมของไทยมีสัดส่วนที่สูงจากการเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง และหนี้สาธารณะต่อจีดีพี อยู่ในระดับที่มีความยั่งยืนทางการคลังและต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่มีระดับการพัฒนาที่ใกล้เคียงกัน

ทั้งนี้ อันดับด้านการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคไทยที่อยู่อันดับต้นๆ ของโลก จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ว่า เศรษฐกิจไทยที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ

อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะปานกลางและระยะยาว ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เต็มศักยภาพที่ระดับ 4-5% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ น่าจะส่งผลให้การจัดอันดับขีดความสามารถการแข่งขันของไทย และการจัดอันดับด้านการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคไทยดีเพิ่มขึ้นในปีต่อไป

ขณะที่ก่อนหน้านี้ธนาคารโลกได้จัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจปี 2561 ของประเทศไทยได้อันดับที่ 26 จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 46  โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานแก้ไขจุดอ่อนเพื่อให้อันดับทั้งความยากงานทำธุรกิจและความสามารถการแข่งขันของไทยในปีต่อไปดีขึ้น