posttoday

ออมสินเผยความเชื่อมั่นรากหญ้าฟื้น

06 พฤศจิกายน 2560

ออมสินเปิดเผยผลสำรวจไตรมาส 3 ความเชื่อมั่นรากหญ้าเริ่มฟื้น

ออมสินเปิดเผยผลสำรวจไตรมาส 3 ความเชื่อมั่นรากหญ้าเริ่มฟื้น

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน ได้ทำการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก(จีเอสไอ) ประจำไตรมาส 3 ปี 2560 จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ทั่วประเทศ จำนวน 1,941 ราย

ทั้งนี้ จากตัวอย่างพบว่า ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยอยู่ที่ระดับ 46.9 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 46.3 สอดคล้องกับดัชนีในอนาคตอีก 6 เดือนข้างหน้า ที่ประชาชนมีมุมมองที่ดีขึ้นมาอยู่ที่ 48.8 หลังจากได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เริ่มใช้เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา

ศูนย์วิจัยประเมินว่าไตรมาสสุดท้ายเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยประชาชนระดับฐานรากรู้สึกว่าภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น แต่ราคาสินค้าเกษตรที่ยังอยู่ในระดับต่ำส่งผลให้ประชาชนระดับฐานรากยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายอยู่

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาดัชนีความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ เทียบกับไตรมาสก่อน พบว่า ความเชื่อมั่นด้านความสามารถในการชำระหนี้สิน การหารายได้ และภาวะเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แต่การจับจ่ายใช้สอย การออม และโอกาสในการหางานทำลดลง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่าความเชื่อมั่นด้านการชำระหนี้สิน การออมเพิ่มขึ้น แต่การจับจ่ายใช้สอย การหารายได้ โอกาสในการหางานทำ และภาวะเศรษฐกิจปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากจะปรับตัวสูงขึ้นช่วงปลายปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่องจากภาคการส่งออก การใช้จ่ายภาครัฐ และการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปี รวมถึงมาตรการภาครัฐที่ช่วยเหลือประชาชนฐานราก

นอกจากนี้ ยังได้สำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมการออมของประชาชนระดับฐานราก พบว่า มีเงินออมถึง 55.4% และส่วนใหญ่ 59.8% มีเงินออมแบบรายเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000 บาท/เดือน โดยส่วนมากจะเลือกฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์ รองลงมาเก็บไว้ที่บ้าน ครัวเรือน และฝากกับองค์กรหน่วยงานบริษัท วัตถุประสงค์การออมเงิน เพื่อใช้จ่ายยามฉุกเฉิน เจ็บป่วย ใช้ในยามชรา ช่วงวัยเกษียณอายุ และใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพ