"เงินบาท"กลับมาแข็งค่าต่อ หลังทุนต่างชาติไหลเข้า

แบงก์กรุงไทยคาดเงินบาทยังอยู่ในทิศทางแข็งค่าขึ้น ตามแนวโน้มเงินทุนต่างชาติไหลเข้าและพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแกร่ง

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า  ในภาพรวมยังมองแนวโน้มเงินบาทอยู่ในทิศทางแข็งค่าต่อ  ซึ่งไม่ได้แข็งค่าตามสกุลเงินในภูมิภาค  แต่เป็นการปรับแข็งค่าขึ้นตามปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้น จากการปรับประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ขึ้นต่อเนื่องจากหลายหน่วยงานสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งการปรับดีขึ้นของจีดีพีสะท้อนว่าภาคส่งออกยังน่าจะดีต่อเนื่อง บวกกับระดับทุนสำรองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับสูงของไทย ที่สำคัญทิศทางเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ยังมีแนวโน้มไหลเข้ามาในภูมิภาคและไทยเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นมากกว่าระดับที่แข็งค่าสุดของปีนี้ที่ 33.05 บาท/ดอลลาร์  เพราะจากนี้ไปโอกาสที่เงินบาทจะกลับมาอ่อนค่าลงแรงๆ คงน้อยแล้ว เพราะขาดแรงซื้อดอลลาร์สหรัฐ ภาพในปัจจุบันนักลงทุนเริ่มมองหาประเทศที่มีระดับทุนสำรองประเทศสูงๆ เพราะเวลาค่าเงินอ่อนค่าลง ธนาคารกลางของประเทศนั้นๆต้องทยอยนำทุนสำรองออกมาขายเพื่อชะลอการอ่อนค่า

นายจิติพล กล่าวว่า ในช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมานักลงทุนเข้ามาซื้อดอลลาร์กันหมด จากเรื่องนโยบายภาษีที่ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ น่าจะทำได้ แต่ขณะนี้ดอลลาร์น่าจะหมดปัจจัยที่จะดันให้แข็งค่าขึ้นได้แล้ว เพราะตลาดเริ่มมองว่าถ้าทรัมป์ดำเนินนโยบายภาษีสำเร็จดอลลาร์ก็น่าจะแข็งค่าขึ้นไอ่อีกประมาณ 1-2 % ภายในสิ้นปีนี้ หมายความว่าเงินบาทอ่อนค่าลงไม่ได้อีกแล้ว และถึงจะปรับอ่อนค่าลงบ้างก็ไม่น่าจะเกินระดับ 33.70 บาท/ดอลลาร์ แต่ในทางตรงกันข้ามจะกลับมาแข็งค่าขึ้นอีก 

“ทิศทางจากนี้ไปภาพน่าจะเป็นภาพที่นักลงทุนเข้ามาถือลงทุนในสกุลเงินในเอเซีย ส่วนการเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้(บอนด์) ที่ผ่านมาได้เข้ามามากแล้ว ถึงบอนด์ผลตอบแทนจะไม่ดี แต่นักลงทุนมองเป็นการเอาเงินมาพักและได้ประโยชน์จากค่าเงิน ขณะที่การไหลเข้ามาลงในตลาดหุ้นส่วนตัวมองว่ายังไม่มีปัจจัยดี ที่จะมาดันให้ตลาดหุ้นปรับสูงขึ้นได้ชัดเจนนัก เพราะหากตลาดหุ้นสัญญาณดีจริงคงเห็นการโยกเงินลงทุนจากบอนด์มาลงหุ้นแล้ว” นายจิติพลกล่าว

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ (17 ต.ค.)  เปิดที่ระดับ 33.06 /08 บาท/ดอลลาร์ และปิดตลาดที่ระดับ 33.11 บาท  ซึ่งเคลื่อนไหวไม่ผันผวนมากนัก เป็นไปตามกลไกตลาด โดยระหว่างวันเมื่อมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามาก็ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่แถวๆ 33.15 บาท แต่เมื่อมีแรงขายดอลลาร์มาหนุนบาทก็ปรับแข็งค่าขึ้นบ้าง  

อย่างไรก็ดี สำหรับทิศทางค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.) และ 19 ต.ค.ที่จะถึงนี้ คาดว่าเงินบาทน่าจะยังอยู่ในกรอบ 33.05 – 33.15 บาท โดยวันที่ 18 ไม่มีปัจจัยที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ แต่ในช่วงวันที่ 19 ต.ค.นี้จะมีการประชุมสภาการเมืองของจีนและการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจจีน ซึ่งถ้าออกมาในทิศทางที่ดีก็อาจหนุนให้เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นได้