'คลัง'สั่งลุยดึง2แบงก์รัฐสางหนี้คนจน

กระทรวงการคลังส่งรายชื่อลูกหนี้นอกระบบ 1.2 ล้านราย มูลหนี้ 6 หมื่นล้าน ให้ออมสิน-ธ.ก.ส. เร่งสางปัญหา

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งรายชื่อผู้มีรายได้น้อยที่เป็นหนี้นอกระบบจำนวน 1.2 ล้านคน คิดเป็นมูลหนี้ 6 หมื่นล้านบาท ที่มาลงทะเบียนในโครงการเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว ให้ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อดึงเข้าสู่กระบวนการขอสินเชื่อในระบบเพื่อไปใช้หนี้นอกระบบแล้ว

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันนั้น สามารถยื่นขอสินเชื่อผ่านผู้ประกอบการโครงการพิโกไฟแนนซ์และโครงการนาโนไฟแนนซ์ได้

ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่ามีผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยกู้ในโครงการพิโกไฟแนนซ์แล้ว 121 ราย ใน 40 จังหวัดทั่วประเทศ และเริ่มปล่อยกู้แล้ว 63 ราย ใน 32 จังหวัด คิดเป็นยอดสินเชื่อกว่า 42 ล้านบาท โดยภายในปีนี้คาดว่า สศค. จะสามารถออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ได้ทั้งสิ้น 200 ราย

ด้านการปล่อยกู้ให้ผู้มีรายได้น้อยเพื่อใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินของธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. วงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท โดยจะปล่อยกู้ไม่เกิน 5 หมื่น/ราย ใช้คนค้ำ 1 คน ชูอัตราดอกเบี้ยคงที่ไม่เกิน 0.85% ต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีลูกหนี้นอกระบบสนใจขอยื่นคำร้องขอกู้เงินแล้วกว่า 1 แสนราย และจากข้อมูลพบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-31 ส.ค. 2560 มียอดปล่อยกู้รวมกว่า 4,790 ล้านบาท

นายกฤษฎา กล่าวว่า คลังศึกษาแนวทางเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินในระบบได้มากขึ้น โดยอาจจะมีการปรับลดเกณฑ์การขอสินเชื่อสำหรับผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบ เช่น อาจไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันกับธนาคารรัฐที่ร่วมโครงการ

นอกจากนี้ จะมีการแก้ไขเกณฑ์อื่นๆ ที่อาจเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ โดยอาจจะมี การพิจารณาปรับกรอบการชดใช้ กรณีที่เป็นหนี้เสียให้กับทั้งสอง ธนาคารของรัฐเป็น 40% เพื่อไม่ให้ธนาคารต้องกังวลเรื่องการปล่อยกู้ จากปกติหนี้เสียของการปล่อยกู้ผู้มีรายได้น้อยจะไม่เกิน 30% และหากทั้งสองธนาคารปล่อยกู้เต็มวงเงิน กระทรวงการคลังก็จะเสนอขยายเงินกู้ให้เพิ่มอีก