ปลดล็อกเงินกู้รีไฟแนนซ์หนี้

แก้หนี้เสียไม่ออก ร้อง ธปท.ผ่อนกฎเข้มปล่อยกู้เงินรีไฟแนนซ์เก่าได้เกิน 5 เท่าของเงินเดือน หวั่นลูกหนี้วิ่งหาเงินนอกระบบ

นายประชา ชัยสุวรรณ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท รีโซลูชั่น เวย์ ผู้ให้บริการสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เปิดเผยว่า ได้ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายการให้บริษัทหรือ ผู้ประกอบการที่ปล่อยสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์หนี้ สามารถที่จะปล่อยเงินกู้ให้ลูกค้าที่ต้องการกู้เงินไปรีไฟแนนซ์หนี้ส่วนบุคคล บัตรเครดิต จากเดิมที่กำหนดให้บริษัทจะปล่อยกู้ต่อรายได้ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ให้ขยายได้มากขึ้น

ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาลูกหนี้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์หนี้ เมื่อผ่านกระบวนการเจรจราปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้แล้ว แต่ไม่สามารถหาเงินก้อนมาโปะหนี้ เพราะติดปัญหาไม่สามารถหาแหล่งเงินก้อนใหม่มาชำระหนี้ เนื่องจากสถาบันการเงินส่วนใหญ่ไม่ให้สินเชื่อลูกหนี้ที่มีประวัติการค้างชำระหรือติดเครดิตบูโร รวมทั้งลูกหนี้ไม่สามารถเข้าโครงการคลินิกแก้ไหนี้ของ ธปท. ดังนั้นในที่สุดก็ไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ทั้งหมด และต้องถูกดำเนินการฟ้องร้องยึดอายัดทรัพย์สิน

นายประชา กล่าวว่า ขณะนี้มีปัญหามากกับผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์หนี้แต่ติดปัญหา บริษัทที่รับรีไฟแนนซ์หนี้ไม่สามารถที่จะปล่อยกู้ได้เกิน 5 เท่าของรายได้ ทั้งที่เงินให้กู้เป็นเงินทุนของบริษัทเอง และจะต้องรับความเสี่ยงเอง ซึ่งแตกต่างจากสถาบันการเงินหรือธนาคาพาณิชย์ที่จะต้องระดมเงินทุนจากประชาชนมาลงทุน ดังนั้น ธปท.ควรจะผ่อนคลายให้บริษัทสามารถปล่อยกู้ได้เกิน 5 เท่า

อย่างไรก็ตาม บริษัทในเครือรับจ้างบริหารติดตามทวงหนี้ ก็เห็นว่าลูกหนี้มีหนี้กับหลายสถาบันการเงินต้องการช่วยเหลือด้วยการเจรจราปรับลดหนี้จากเจ้าหนี้ต่างๆ ได้ส่วนลด 20-30% แต่ต้องการเงินก้อนเพื่อไปชำระหนี้กับเจ้าหนี้ทั้งหมด แต่ก็ติดปัญหาว่าไม่สามารถหาแหล่งเงินกู้เกิน 5 เท่าของเงินเดือนได้

"ตัวอย่างลูกหนี้บัตรเครดิต 5 ใบ ใบละ 1 แสนบาท รวมมีหนี้ 5 แสนบาท เจรจาลดหนี้กับสถาบันการเงินทั้งหมดเหลือหนี้ 3 แสนบาท แต่ลูกหนี้มีเงินเดือน 3 หมื่นบาท สามารถกู้ได้ไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือนก็เท่ากับกู้ได้เพียง 1.5 แสนบาท ดังนั้นลูกหนี้ก็จะต้องวิ่งไปกู้เงินนอกระบบอีก 1.5 แสนบาท เพื่อมาใช้หนี้ทั้งหมด ถ้าหาไม่ได้ก็ต้องยอมให้ฟ้องร้องและถูกยึดทรัพย์" นายประชา กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทก็พร้อมให้เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 15-18% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลที่คิด 20-28% ซึ่งการมากู้กับบริษัทจะผ่อนเดือนละ 1 หมื่นบาท ภายใน 4-5 ปี ก็หมดภาระหนี้ และเป็นการลดปัญหาหนี้ครัวเรือนและหนี้เอ็นพีแอล และก็ไม่ใช่หนี้ก้อนใหม่ด้วย