posttoday

รื้อเบี้ยอัคคีภัย 'เล็ก-ใหญ่'ได้ลด 10-15%

08 กรกฎาคม 2560

ในวันที่ 1 ต.ค. 2560 นี้ เบี้ยประกันภัยที่อยู่อาศัยและเบี้ยประกันภัยอุตสาหกรรมราคาจะถูกลง 10-15%

โดย...วารุณี อินวันนา

ในวันที่ 1 ต.ค. 2560 นี้ เบี้ยประกันภัยที่อยู่อาศัยและเบี้ยประกันภัยอุตสาหกรรมราคาจะถูกลง 10-15% หลังจากที่ราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้อัตราเบี้ยประกันภัยใหม่เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา

เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย ต้องการสนองนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนวาระ “ประเทศไทยปลอดภัย” สูงขึ้น รวมทั้งรัฐบาลต้องการสนับสนุนอุตสาหกรรมประเภทขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี ที่มีจำนวนมากเกิดความเข้มแข็ง โดยขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

ทั้งสองหน่วยงานจึงได้ทำการปรับอัตราเบี้ยประกันภัยใหม่ เพื่อให้ประชาชนและเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงประกันภัยได้มากขึ้น

สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยของประชาชนทั่วไป ราคาเบี้ยจะถูกลง 15% ในวันที่ 1 ต.ค. 2560 เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาซื้อประกันอัคคีภัยเพิ่มขึ้น และใช้ประกันภัยเป็นเครื่องมือในการลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจหากเกิดไฟไหม้ขึ้นมา เพราะจากสถิติตั้งแต่ปี 2532-2559 ได้เกิดเหตุอัคคีภัยกว่า 5.2 หมื่นครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 4,532 คน และมีผู้เสียชีวิต 1,740 คน ก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่ากว่า 3.1 หมื่นล้านบาท และจากฐานลูกค้าที่ทำประกันอัคคีภัยและทรัพย์สิน พบว่าจะมีไฟไหม้เฉลี่ย 2,356 ครั้ง/ปี

ขณะที่เอสเอ็มอีจะถูกลง 10% ด้วยการให้ธุรกิจที่มีมูลค่าตั้งแต่ 50 ล้านบาท ซื้อประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (ไอเออาร์) ได้ จากเดิมที่จะซื้อไอเออาร์ได้จะต้องมีมูลค่าทรัพย์สิน 300 ล้านบาทขึ้นไป ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอี ซื้อประกันภัยได้ในราคาแพง เพราะต้องซื้อประกันอัคคีภัยก่อนและบวกเบี้ยไอเออาร์อีกไม่ต่ำกว่า 5% เข้าไปเพิ่ม เช่น เดิมเบี้ยอัคคีภัยอยู่ที่ 100 บาท แต่เนื่องจากมูลค่าทรัพย์สินไม่ถึง 300 ล้านบาท จึงต้องจ่ายเพิ่มอีก 5 บาท จึงจะได้รับความคุ้มครองความเสี่ยงภัยทุกชนิด

นอกจากนี้ ยังยกเลิกเบี้ยขั้นต่ำสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อให้บริษัทประกันวินาศภัยสามารถแข่งขันเบี้ยประกันภัยได้เต็มที่ตามความสามารถในการรับประกันภัย แต่มีการกำหนดเบี้ยสูงสุดไว้ไม่เกิน 2.5% เพื่อให้ความเป็นธรรมกับภาคธุรกิจ

“การปรับปรุงอัตราเบี้ยประกันอัคคีภัยให้มีความสอดคล้องกับสภาวการณ์ของตลาดและการแข่งขัน  ตลอดจนความต้องการของประชาชนในปัจจุบัน เพื่อให้การคิดอัตราเบี้ยประกันอัคคีภัยสามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกภาคส่วนได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ยังถือเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดเสรีอัตราเบี้ยประกันภัยในอนาคตอีกด้วย” สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. กล่าว

ด้าน อานนท์ วังวสุ เลขาธิการสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ประชาชนทั่วไปไม่ค่อยซื้อประกันอัคคีภัยมากนัก เพราะมองว่าเบี้ยแพง ซึ่งทางภาคธุรกิจได้ให้ความรู้ด้านประโยชน์ของการประกันอัคคีภัยมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าความเสี่ยงจะต่ำ แต่หากเกิดไฟไหม้แต่ละครั้งจะทำให้เกิดความสูญเสียมหาศาล

สำหรับความคุ้มครองที่จะได้รับ ประกอบด้วย ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด ภัยจากการเฉี่ยวชน ที่เกิดจากยานพาหนะและสัตว์ การถูกอากาศยานตกใส่ ภัยเนื่องจากน้ำ