กรมศุลฯหวั่นภาษีต่ำเป้า

กรมศุลกากรเร่งเครื่องรีดภาษี 3 เดือนสุดท้ายปีงบประมาณ 2560 คาดเก็บพลาดเป้าหมื่นล้าน

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรม ศุลกากร เปิดเผยว่า การเก็บภาษีของกรมศุลกากรในปีงบประมาณ 2560 จะต่ำกว่าประมาณการประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีการใช้สิทธิ ประโยชน์ภาษีจากการทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ทำให้ภาษีหายไป 4,000 ล้านบาท การปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรสนับสนุน ผู้ประกอบการทำให้ภาษีหายไป 3,000 ล้านบาท และผู้ประกอบการรถยนต์ที่ ผลิตจากประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ใช้สิทธิฟอร์มดี (Form-D) เสีย ภาษี 0% ทำให้ภาษีหายไปอีก 3 หมื่นล้านบาท

สำหรับเป้าหมายการเก็บภาษีปีงบประมาณ 2560 ของกรมศุลกากรเดิมอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงการคลังได้ปรับประมาณการเหลือ 1.05 แสนล้านบาท คาดว่าจะได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2560 ได้มีการเร่งเพิ่มประสิทธิภาพอุดช่องรั่วไหลจากการเก็บภาษีอย่างเข้มงวด 3 ด้าน ได้แก่ 1.การนำเข้าสินค้าและสำแดงราคาต่ำกว่าเป็นจริง 2.การนำเข้าเป็นเท็จ และ 3.การนำเข้าน้ำหนักเกินโดยแจ้งต่ำกว่าเป็นจริง ทั้งหมดทำให้มีการเสียภาษีต่ำกว่าที่เป็นจริง

ทั้งนี้ กรมศุลกากรได้ตั้งศูนย์ข้อมูลขึ้น โดยให้มีการทำงานอย่าง เป็นระบบ จากที่มีการทำงานกระจัด กระจาย โดยศูนย์นี้จะรวบรวมข้อมูลผู้นำเข้าที่อยู่ในข่ายเลี่ยงภาษี และส่งไปให้ด่านต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือคลองเตย ด่านขนถ่ายสินค้าลาดกระบัง และสนามบินสุวรรณภูมิ ทำการตรวจสอบเป็นพิเศษ ซึ่งด่านดังกล่าวมีการนำเข้าสินค้า 92% ของการนำเข้าทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม กลุ่มสินค้าที่กรมศุลกากรจะตรวจสอบการนำเข้าเป็นพิเศษ ได้แก่ กลุ่มเหล็ก รถยนต์ เครื่องจักร สินค้าไอที และสินค้าผลิตภัณฑ์พลาสติก ซึ่งถือเป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหวในการเสียภาษีไม่ถูกต้องจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการ ดำเนินการติดตั้งเอกซเรย์ค่อมสาย พานกระเป๋าทุกสนามบินใน กทม.ซึ่ง จะมีผลให้ตรวจสอบการนำเข้าสินค้า แบรนด์เนมต่างๆ ที่นำเข้ามาขายโดยเลี่ยงภาษีนำเข้า การอุดช่องรั่วไหลที่ดำเนินการ จะทำให้กรมศุลกากรเก็บภาษีได้ตามเป้าหมายใหม่