posttoday

คลังขนมาตรการ รับมือสังคมผู้สูงอายุ

03 มกราคม 2560

ภายในปี 2568 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ โดยจะมีผู้สูงอายุ 14.4 ล้านคน

โดย...กนกวรรณ บุญประเสริฐ 

ในห้วงปี 2559 ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังและหน่วยงานในสังกัดเร่งออกมาตรการเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ หลังจากที่คาดว่าภายในปี 2568 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) โดยจะมีผู้สูงอายุ 14.4 ล้านคน สัดส่วนเพิ่มขึ้นเกิน 20% ของประชากรทั้งหมด หรือจะมีผู้สูงอายุ 1 คน ในประชากรทุก 5 คน

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการจ้างงานผู้สูงอายุ โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายประเภทเงินเดือนและค่าจ้างสำหรับการจ้างผู้สูงอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไป ในอัตราค่าจ้างไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท/คน/เดือน และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (ซีเนียร์ คอมเพล็กซ์) ในที่ราชพัสดุ 4 แห่ง คือใน จ.ชลบุรี นครนายก เชียงราย และเชียงใหม่ รวมทั้งให้การเคหะแห่งชาติ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) สร้างที่พักอาศัยผู้สูงอายุใช้หลักการของโครงการบ้านมั่นคงและบ้านประชารัฐ

รวมทั้งให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธอส. ให้สินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนให้แก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท และทำโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (รีเวิร์ส มอร์เกจ) สามารถนำที่อยู่อาศัยที่มีกรรมสิทธิ์และปลอดหนี้มาเปลี่ยนเป็นรายได้ในการดำรงชีพเป็นรายเดือน

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. คณะกรรมการนโยบายบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ สร้างระบบบำเหน็จบำนาญให้ครอบคลุม และเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เพื่อตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) เป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับสำหรับแรงงานในระบบอายุตั้งแต่ 15-60 ปี ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะช่วยให้ลูกจ้างและแรงงานกลุ่มนี้เมื่ออายุครบ 60 ปี มีรายได้ในรูปบำนาญหรือบำเหน็จไว้ใช้หลังเกษียณ โดย กบช.จะเปิดรับสมาชิกตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป

ขณะที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือแบงก์รัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ออกมาตรการเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัย เช่น เงินฝากประชารัฐเพื่อผู้สูงวัย อายุ 60 ปีขึ้นไป ให้ดอกเบี้ยบวกเพิ่มอีก 100% โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบ รีเวิร์ส มอร์เกจ นำบ้านมาเป็นหลักประกันสินเชื่อ แต่จะได้เงินเป็นรายเดือนภายในเวลาไม่เกิน 20 ปี โดยเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาการกู้เงินตามสัญญาแล้วต้องไม่เกินอายุ 85 ปี คิดดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี -0.5%

นอกจากนี้ ยังมีโครงการสินเชื่อเคหะลูกกตัญญู ให้ลูกที่เลี้ยงพ่อแม่กู้ซื้อบ้านปลอดดอกเบี้ย 6-12 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย. 2559-30 มิ.ย. 2560 และโครงการสินเชื่อประชารัฐเพื่อผู้สูงวัย ให้กู้ได้ไม่เกิน 2 แสนบาท ใช้เป็นเงินทุนในการประกอบอาชีพ ดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน

ด้าน ธอส.เตรียมปล่อยกู้ผู้ประกอบการ 4,000 ล้านบาท และมีโครงการสินเชื่อบ้านกตัญญู ดอกเบี้ยพิเศษให้กับลูกที่เลี้ยงดูบิดามารดา วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ยปีที่ 1-4 เท่ากับเอ็มอาร์อาร์ -3.25% ปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ แยกเป็นลูกค้าสวัสดิการคิดเอ็มอาร์อาร์ -1% กรณีลูกค้ารายย่อยคิดเอ็มอาร์อาร์ -0.5%

ส่วนมาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (รีเวิร์ส มอร์เกจ) อยู่ระหว่างรอแก้ พ.ร.บ.ของธนาคารใหม่ คาดว่าจะเปิดให้ผู้สูงอายุนำบ้านของตัวเองมายื่นขอสินเชื่อได้ในปี 2560 นี้