posttoday

แบงก์ไม่ลดหนี้เอสเอสไอ

21 กันยายน 2559

ไทยพาณิชย์ยันไม่ตัดลดหนี้เอสเอสไอ เจ้าหนี้ผ่านแผนแปลงหนี้เป็นทุน พร้อมให้ใช้กระแสเงินสดจ่ายคืน รวม 144 งวด ถ้ามีกำไรต้องจ่ายหนี้เพิ่ม 3%

ไทยพาณิชย์ยันไม่ตัดลดหนี้เอสเอสไอ เจ้าหนี้ผ่านแผนแปลงหนี้เป็นทุน พร้อมให้ใช้กระแสเงินสดจ่ายคืน รวม 144 งวด ถ้ามีกำไรต้องจ่ายหนี้เพิ่ม 3%

นายอาทิตย์ นันวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึงรายละเอียดแผนฟื้นฟูบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (เอสเอสไอ) ว่า จะไม่มีการตัดหนี้ หรือแฮร์คัต ขณะที่แนวโน้มการทำธุรกิจของเอสเอสไอในประเทศไทย และแนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กดีขึ้น และจะทำให้บริษัทสามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูได้ โดยขณะนี้รายละเอียดของแผนอยู่ระหว่างการหารือระหว่างธนาคารพาณิชย์เจ้าหนี้รายใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารทิสโก้ ร่วมกับเอสเอสไอที่เป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟู หากไม่มีการคัดค้าน แผนก็จะผ่านการอนุมัติ และเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูต่อไป

ทั้งนี้ การหาพันธมิตรร่วมทุนอาจจะเป็นแนวทางหนึ่งของการฟื้นฟูกิจการในระยะยาว ซึ่งกระบวนการในส่วนนี้จะเกิดขึ้นได้หลังจากที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ที่สามารถดึงดูดความสนใจของพันธมิตรได้

แหล่งข่าวจากธนาคารเจ้าหนี้ เอสเอสไอ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ได้มีการประชุมเจ้าหนี้และลงมติพิเศษยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการเอสเอสไอ โดยมีเจ้าหนี้เข้าร่วมประชุมคิดเป็นมูลหนี้ 54,536 ล้านบาท หรือ 91.90% ของเจ้าหนี้ที่มีสิทธิออกเสียง และมีมติไม่น้อยกว่า 50% ของจำนวนหนี้ทั้งหมด โดยตามแผนฟื้นฟูจะมีการลดทุนจดทะเบียน ด้วยการลดมูลค่าลงเหลือหุ้นละ 0.05 บาท

สำหรับแผนการชาระหนี้นั้น ตามแผนฟื้นฟูกิจการ เอสเอสไอจะใช้กระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานในการชาระหนี้ โดยตามแผนจะแบ่งชาระเป็นงวด รวม 144 งวด และมีเงื่อนไขว่า หากกระแสเงินสดของเอสเอสไอมีกำไร จะพิจารณาจ่ายชาระหนี้เพิ่มให้อีกไม่เกิน 3%

นอกจากนี้ จะมีการแปลงหนี้เป็นทุน โดยตามแผนมีเจ้าหนี้ที่ยื่นขอชาระหนี้ 46 ราย แต่มีการขอถอนตัวไป 31 ราย ทำให้เหลือเจ้าหนี้ 27 ราย แบ่งเป็น 13 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 เป็นเจ้าหนี้ที่มีหลักประกัน และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 2-13 เป็นเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ส่วนการแปลงหนี้เป็นทุนนั้น ปัจจุบันมีเจ้าหนี้ที่เสนอแปลงหนี้เป็นทุนมาแล้ว คิดเป็นยอดหนี้ 775.97 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการรอคำตอบจากเจ้าหนี้กลุ่มอื่นๆ ที่เหลือว่าจะดำเนินการแปลงหนี้เป็นทุนหรือไม่

โดยเจ้าหนี้ที่ยื่นขอชาระหนี้ แบ่งเป็นเจ้าหนี้สถาบันการเงินและนิติบุคคลในไทย มูลหนี้ 47,969 ล้านบาท เจ้าหนี้ในอังกฤษในฐานะผู้ค้ำประกันลูกหนี้ มูลหนี้ 89 ล้านยูโร กลุ่มนี้ไม่สามารถขอรับชาระหนี้ได้ในขั้นตอนนี้ เนื่องจากเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ของเอสเอสไออีกที

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ที่ประชุมยังมีมติให้ตั้งคณะกรรมการเจ้าหนี้จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารทิสโก้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรายงานให้ศาลล้มละลายกลางทราบ และกำหนดวันพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการของเอสเอสไอ หากศาลพิจารณาเห็นชอบแผนจึงจะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูได้ รวมทั้งเจ้าหนี้ที่ไม่เห็นด้วยกับแผน สามารถยื่นค้านต่อศาลได้