posttoday

ลงทุน...ให้หมูตัวโต

26 ธันวาคม 2561

ลงทุนให้...หมูตัวโต หลายคนอาจะเกิดข้อสงสัยว่าหมูตัวโต...คืออะไร

เรื่อง กัลย์ทิชา นับทอง

ลงทุนให้...หมูตัวโต หลายคนอาจะเกิดข้อสงสัยว่าหมูตัวโต...คืออะไร อย่างที่ทราบว่าปี 2562 เป็นปีกุน หรือปีหมูนั้นเอง อีกนัยหนึ่งก็คือหมูเปรียบเหมือนสัญลักษณ์การออม ซึ่งกระปุกออมสินส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปหมู ดังนั้น การลงทุนให้หมูตัวโตก็คือการลงทุนอย่างไรในปีหมูให้เงินออมเพิ่มขึ้น

และเมื่อเริ่มต้นศักราชใหม่ปี 2562 อยากให้ทุกท่านถือโอกาสในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะนักออมเงิน หรือประชาชนทั่วไป ได้เริ่มทำให้เงินออมสร้างผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำในอนาคต

แน่นอนการสร้างผลตอบแทนที่ดีของนักออมจะต้องมาพร้อมกับการลงทุน เพื่อให้เงินเก็บเงินออมของเราเพิ่มขึ้น ซึ่งรูปแบบการลงทุนก็มีทั้งแบบง่ายๆ หมูๆ ไปจนถึงการลงทุนที่ซับซ้อน

เรามาเริ่มที่แบบง่ายๆ ทุกคนสามารถทำได้นั่นคือการฝากเงินในเงินฝากประจำ โดยผู้ฝากจะต้องฝากเงินกับธนาคารเป็นระยะเวลาที่แน่นอน เช่น 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน หรือ 36 เดือน

เปิดบัญชีได้ตั้งแต่ 1,000 ขึ้นไป ซึ่งเงินฝากประจำจะมีแบบฝากทั้งจำนวนจนครบระยะเวลาและทยอยฝากจำนวนเท่าๆ กันจนครบระยะเวลา และจะมีทั้งแบบถอนเงินก่อนครบกำหนดและถอนตามกำหนด แต่อาจไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่ธนาคารระบุไว้ตั้งแต่ต้น หลายท่านอาจจะสงสัยว่าฝากประจำเป็นการลงทุนด้วยเหรอ...

แน่นอนเพราะการฝากประจำมีระยะเวลาและผลตอบแทนที่แน่นอน ซึ่งปัจจุบันก็มีให้เลือกฝากประจำอย่างหลากหลายทั้งธนาคารของรัฐอย่างธนาคารออมสิน กรุงไทย และ ธ.ก.ส. หรือจะธนาคารพาณิชย์ที่มีตั้งแต่ขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็ก

ขั้นตอนก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน แค่เริ่มต้นด้วยการวางเเผนทางการเงิน จากนั้นเช็กอัตราดอกเบี้ยพร้อมระยะเวลาการฝากของแต่ละธนาคารนำมาเปรียบเทียบ แล้วเลือกที่ใช้เพื่อให้ได้ที่ชอบ จากนั้นก็เดินทางไปเเบงก์ เปิดบัญชีฝากประจำ แล้วรอเวลาครบกำหนดรับเงินต้นพร้อมผลตอบแทนได้เลย

สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ณ วันที่ 24 ธ.ค. 2561 พบว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ธนาคารกรุงเทพอยู่ที่ 1.50% กรุงไทย 1.30% กสิกรไทย 1.30% ไทยพาณิชย์ 1.40% ทิสโก้อยู่ที่ 1.50% ออมสินอยู่ที่ 1.30% และ ธ.ก.ส.อยู่ที่ 1.40% (ที่มา : ธปท., ออมสิน, ธ.ก.ส.)

ยกตัวอย่าง เรามีเงินออม 1 หมื่นบาท จากการศึกษาอัตราดอกเบี้ย จึงเลือกที่จะฝากประจำ 12 เดือน อัตราดอกเบี้ยที่ 1.00% และเลือกฝากทั้งหมด 1 หมื่นบาท ดังนั้นเมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดเราจะมีเงิน 10,000 X1.00% เท่ากับเราจะได้ดอกเบี้ยจากฝากประจำ 100 บาท สิ้นปีเราจะมีเงินอยู่ที่ 10,100 บาท

ลงทุน...ให้หมูตัวโต

กับอีกรูปแบบคือเราเปิดบัญชีฝากประจำ โดยระบุว่าจะฝากเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ระยะเวลา 12 เดือน และมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.00% ครบหนดเราจะได้เงินอยู่ที่ 12,120 บาท นี่คือวิธีการเบื้องต้นเท่านั้น

วิธีต่อมาอาจจะมีความซับซ้อนยุ่งยากเพิ่มมากบ้าง สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) แม้การลงทุนประเภทนี้จะมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงบ้าง เเต่เมื่อพูดถึงผลตอบแทนที่จะได้รับบอกได้เลยว่าคุ้มค่า เพราะการลงทุนวิธีนี้นอกจากจะมีเงินลงทุนพร้อมด้วยผลตอบแทนที่จะได้รับเมื่อสิ้นสุดกองทุน กองทุนครบกำหนดการลงทุน หรือขายหน่วยลงทุน ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี โดยสามารถนำไปลดหย่อยภาษีปลายปีได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าการลงทุนด้วยกองทุนจะได้ประโยชน์สองต่อจริงๆ

จากคำแนะนำข้างบน หลายทั้งอาจจะรักพี่เสียดายน้อง ไม่รู้จะเริ่มต้นลงทุนอย่างไร เพื่อให้ได้คำตอบและแนวทางที่ชัดเจนมาขึ้น "นริศ สถาผลเดชา" เจ้าหน้าที่บริหารศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics จะมาแนะนำแนวทางเทรนการลงทุนปีหน้า เพื่อให้ท่านๆ ทั้งหลายได้ตัดสินใจเริ่มต้นลงทุนในปีหมูกัน

นริศ บอกว่า ขอเริ่มต้นที่มุมมองเศรษฐกิจในส่วนของตลาดทุนปีหน้า มองว่าเป็นปีที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวจากหลายปัจจัย อีกทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อการลงทุนตลาดทุน และจะมีการลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ค่อนข้างเยอะ และทำให้สภาพคล่องไหลกลับตลาดทุนน้อยลง แต่มาอยู่ในตลาดพันธบัตรเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นสินทรัพย์หรือทรัพย์สินที่น่าสนใจก็จะเป็นการลงทุนในตลาดพันธบัตรมากกว่าตลาดทุน

อีกทั้งภาพรวมของน้ำมันก็ยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคต่ำตามไปด้วย การจะเข้าไปลงทุนในกองทุนรวมที่สินค้าอุปโภคบริโภคจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะหากมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ดี

สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยมองว่ายังเป็นขาขึ้น จากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.50% เป็น 1.75% ในการประชุมครั้งที่ผ่านมานั้น จึงอยากแนะนำนักออม นักลงทุน ควรรักษาอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าปัจจุบันของกระแสดอกเบี้ยรับที่จะได้ในอนาคต (ดูเรชั่น) ของหลักทรัพย์ให้อยู่ในระยะสั้นๆ และยังไม่ควรถือระยะยาว แม้อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นก็ตาม

"ทิศทางดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น อยากแนะนำให้รักษาดูเรชั่นของพอร์ต อย่าเพิ่งล็อกเงินยาว อดทนและรอเก็บสั้นๆ ไปก่อนในระยะนี้ รอจังหวะดอกเบี้ยตลาดปรับขึ้นแล้วค่อยล็อกเงินยาว และบริหารตามปกติ และอย่าเพิ่งซื้อหมูก็พอ" นริศ กล่าว

สำหรับคนทั่วไปและมนุษย์เงินเดือนจะต้องวางเป้าหมายและแนวทาง แล้วคำนวณว่าสัดส่วนรายได้และการเสียภาษีในแต่ละปีอยู่ที่เท่าใด จากนั้นก็ให้วางเเผนเข้าซื้อกองทุนแอลทีเอฟ หรือกองทุนอาร์เอ็มเอฟ ในอัตราส่วนเท่าใด จากนั้นให้ทยอยซื้อสะสมต่อเนื่องตลอดทั้งปี

ทั้งนี้ มองว่าการออมเงินไม่ใช่เรื่องยาก เพราะอย่างที่ทราบดอกเบี้ยของกองทุนตลาดเงินขณะนี้ พบว่าต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากบางตัวที่เปิดให้คนฝากในตลาดตอนนี้ ฉะนั้นหากคิดจะออม การออมไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่จะต้องมีการแบ่งสัดส่วนเงินและวางแผนการออมให้ดี ซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็นและอย่าลืมที่จะออมเงิน โดยให้ออมก่อนจ่าย

และจากทิศทางดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นจะต้องล็อกดูเรชั่นให้สั้น เพื่อที่รอจังหวะที่ดอกเบี้ยขึ้น ซึ่งหากดอกปรับเบี้ยขึ้น เงินฝากประจำถือว่าน่าสนใจ แต่ถ้าอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ยังไม่ปรับตัวขึ้น ก็อย่าเพิ่งนำเงินไปล็อกไว้ที่ฝากประจำ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินมีให้เลือกลงทุนมากมาย ทำให้นักลงทุนมีทางเลือกเพิ่มขึ้น และให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝากประจำ

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนทั่วไปหรือคนที่เริ่มต้นลงทุนเพื่อออมเงิน นริศ บอกว่า การลงทุนโดยเฉพาะกองทุนรวมแอลทีเอฟ อาร์เอ็มเอฟนั้น อย่าไปเน้นลงทุนช่วงปลายปี เพราะในช่วงปลายปีราคาหุ้นอาจจะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เราได้ของแพงมาไว้พอร์ตการลงทุน แต่ต้องการให้ทยอยเข้าซื้อ ทยอยออมทีละเล็กละน้อย หรือในช่วงจังหวะที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง เพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุนของเราให้ถูกลง เพราะเป็นการลงทุนระยะยาว 7 ปีขึ้นไป และฐานภาษีของแต่ละบุคคลด้วย ส่วนกำไรเฉลี่ยจากการลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 20% และกำไรจากราคาหุ้น รวมถึงกำไรจากเอ็นเอวี

นริศ ทิงท้ายว่า "สำหรับการออมนั้นเป้าหมายการออมที่ดี คือ การเลือกปริมาณที่ต้องการออม ส่วนจำนวนหรือเป้าหมายของผลตอบแทนที่จะได้รับนั้นไม่ใช่หัวใจหลักของการออม และส่วนใหญ่การออมจะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวินัยการออมของแต่ละบุุคคล การมีวินัยการออมหากมีวินัยการออมดี แล้วการลงทุนได้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ สุดท้ายของการออมเงินที่จะได้รับก็ออมมาเยอะ"

จากแนวทางการออม รวมถึงความคิดเห็นจากผู้มีประสบการณ์ตรง คงทำให้หลายท่านได้รู้และเห็นถึงแนวทางว่าทำอย่างไรหมูของเราถึงจะโต๊โต