posttoday

ออมเงินแบบง่ายๆ คุณก็ทำได้

17 เมษายน 2561

สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่เตรียมเก็บเงินเพื่อเตรียมเกษียณไม่ได้สักที

เรื่อง กันย์ ภาพ pixabay

สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่เตรียมเก็บเงินเพื่อเตรียมเกษียณไม่ได้สักที เพราะส่วนใหญ่ใจไม่แข็งพอขอใช้เงินก่อน เหลือค่อยมาเก็บที่หลัง ก็เลยตามเลยไปเรื่อยๆ เก็บเงินไม่ได้ตามเป้า แต่ถ้าตั้งใจจริง มีวินัยที่แข็งแกร่ง มุ่งมั่น พยายามและใจแข็งขึ้นอีกนิด การบริหารจัดการเงินก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป

ถ้าคุณเปิดใจการออมเงินก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป ด้วยการเก็บเงินเพียงวันละ 10% ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้เงินวันละ 300 บาท แล้วคุณก็ลองเก็บ 10% ของ 300 บาท ก็คือวันละ 30 บาท คุณก็มีเงินออมได้จริงทุกวัน วันละ 30 บาท ลองลดค่าขนมหรือค่ากาแฟลง เปลี่ยนจากกาแฟยี่ห้อดังมาเป็นกาแฟแบรนด์กลางๆ หรือเปลี่ยนมาเป็นกาแฟปากซอยที่อร่อยเข้มข้นไม่แพ้กัน หรือจะซื้อกาแฟดีๆ ไว้ชงกินเองที่สำนักงานก็ได้ เพื่อให้มีเงินออมมากขึ้นได้ เพียงเท่านี้คุณก็มีเงินเก็บเดือนละเกือบ 1,000 บาท สรุป 1 ปีก็หมื่นกว่าบาทเข้าไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะใช้วันละเท่าไรก็ตาม ขอเพียงคุณออมเพียงวันละ 10% เท่านั้น ยิ่งคุณใช้ต่อวันมากเท่าใดก็จะมีเงินออมเพิ่มขึ้นเท่านั้น

สร้างแรงจูงใจด้วยการหากระปุกสวยๆ เป็นตัวช่วยให้สร้างแรงกระตุ้นในการอยากหยอดมันบ่อยๆ เท่านี้คุณก็มีเงินเพิ่มขึ้นอีก10% อย่างไม่ลำบากใจเกินไป

อีกวิธีการคือเก็บแบงก์ 50 ไอเดียในการออมนี้น่าสนใจที่เอา 2 วิธีมาผสมกัน นั่นคือแบงก์ 50 ในกระเป๋า บวกกับค่ากาแฟที่คุณซื้อทุกๆ วัน เมื่อเจอแบงก์ 50 ก็ออมเก็บไว้ ส่วนการจดรายจ่ายบางคนอาจจะไม่สะดวกมานั่งจดทุกวันว่าวันนี้ตัวเองกินอะไรไปบ้าง ทั้งหมดกี่บาท อาจจะลองใช้วิธีว่าวันนี้กินไปเท่าไรแล้วออมเท่านั้น มันเห็นภาพชัดเจนกว่า โดยคุณจะเห็นออกมาเป็นตัวเงินในกระปุกออมสินทันทีว่ามีรายจ่ายเท่าไร แม้ว่าดูเล็กน้อยสำหรับใครบางคน แต่ถ้าคิดว่ามันยิ่งใหญ่มาก เพราะเป็นวิธีคิดที่พยายามปิดนิสัยการจ่ายเงินจากรอยรั่วเล็กๆ ที่จะทำให้เงินออมหายไปอย่างไม่รู้ตัว ความคิดเห็นส่วนตัวนั้นมองว่ากาแฟก็ดื่มได้ แต่ควรมีลิมิตที่พอดี ไม่ควรมากเกินไปจนเบียดเบียนรายจ่ายส่วนอื่นๆ

วิธีนี้เหมาะกับคนที่ขี้เกียจจดบัญชีรายรับรายจ่าย ลองเอาไปปรับใช้ว่าวันนี้คุณกินขนม กินน้ำหวานไปเท่าไรก็มาหยอดกระปุก แล้วมานับดูว่า 1 เดือนกินไปเท่าไร ก็จะเห็นว่าหมดไปกับการกินเท่าไรจากเงินออมที่กองอยู่ตรงหน้า หากกินขนมจุกจิกมากเกินไปก็จะทำให้เสียเงิน 2 ต่อ คือ เสียเงินค่าขนมและเสียเงินกับสารพัดวิธีการลดความอ้วนที่จะตามมาด้วยนะ

ลดพฤติกรรมเสี่ยงเพื่อเพิ่มเงินออม ด้วยการหารายได้เพิ่ม 100 บาทกับการลดรายจ่าย 100 บาท คุณคิดว่าแบบไหนทำง่ายกว่ากัน เช่น ลดรายจ่ายค่าเหล้า ลดค่าบุหรี่ หรือ ค่าเบเกอรี่ โดยใช้กล่องเหล้าเป็นกระปุกออมสิน แล้วประเดิมด้วยแบงก์พันเป็นเงินออมเริ่มต้น ผสมกับการเก็บแบงก์ 50 ไปด้วย แม้ว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ก็เป็นสิ่งเล็กๆ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคอเหล้าและสิงห์อมควันได้เป็นอย่างดี ว่าลด ละ เลิก เหล้าและบุหรี่ ก็มีเงินออมได้จริงๆ นะ ที่สำคัญก็จะทำให้ตัวเองมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย หรือจะถ้าเป็นคุณสาวๆ ก็หากระปุกออมสินรูปผู้หญิงอ้วนๆ ไว้คอยเตือนใจโดยเอาค่าขนมหวาน ค่าเค้ก มาหยอดกระปุก เหมือนเป็นการจ่ายค่าลดความอ้วนไว้ล่วงหน้าประมาณนั้น

สุดท้ายชวนเพื่อนออมเงินแล้วมาแข่งกันว่าใครจะเก็บได้มากกว่ากัน เราอาจจะเห็นก๊วนเพื่อนชวนกันไปกิน เที่ยว ช็อปปิ้งกันบ่อยแล้ว น่าจะมีเพื่อนชวนออมเงินบ้าง ชวนออมกันเป็นแผนเลยว่าแต่ละสัปดาห์จะออมเท่าไร เป็นการออมเงินแข่งกันในกลุ่มเพื่อนที่แปลกดี ส่วนวิธีการใช้เงินจะเป็นการประมาณรายจ่ายล่วงหน้าว่ามีเท่าไร รวมถึงจดบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อจะได้รู้ว่าเงินนั้นหายไปไหนบ้าง

การออมเงินนั้นมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะถนัดแบบไหนก็ลองนำมาปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเอง บางคนอาจจะใช้วิธีนี้แล้วทำสำเร็จ ในขณะที่อีกคนอาจจะทำแล้วไม่สำเร็จก็ได้ แต่วิธีหนึ่งที่จะทำให้เรารู้ว่าสำเร็จหรือไม่ นั่นคือการลงมือทำ เพื่อจะได้รู้ว่าเราทำได้หรือไม่ได้ อย่าเพียงแค่คิด แต่ต้องคิดแล้วลงมือทำทันที