posttoday

พึ่งใครที่ไหนเล่า จะดีเท่าพึ่งตัวเอง

27 กุมภาพันธ์ 2561

คงไม่มีใครอยากเป็นภาระของใคร ไม่ว่าใครคนนั้นจะเป็นญาติพี่น้อง หรือผู้ที่เราเคยมีบุญคุณกับเขาก็ตาม

เรื่อง ภาดนุภาพ เอพี

คงไม่มีใครอยากเป็นภาระของใคร ไม่ว่าใครคนนั้นจะเป็นญาติพี่น้อง หรือผู้ที่เราเคยมีบุญคุณกับเขาก็ตาม ฉะนั้นการพึ่งพาตัวเองน่าจะสร้างความสบายใจและเป็นการดีที่สุดแล้ว

ที่เกริ่นมาแบบนี้ไม่ได้หมายความว่า สังคมไทยเราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยกันนะ แต่อยากให้ทุกท่านมีสติและไม่ตั้งอยู่ในความประมาท อยากให้เตรียมพร้อมสำหรับทุกๆ สถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเงินทอง อ๊ะ! งั้นลองไปอัพเดทเรื่องดีๆ จากหนังสือ "จน เครียด เก็บตังค์สิ" ที่เราหยิบมาฝากนี้ ดูหน่อยเป็นไร

ถ้าหลายคนจำได้ ตอนเด็กๆ พ่อแม่ทุกบ้านมักจะซื้อกระปุกออมสินให้ลูกๆ เพื่อสอนให้รู้จักเก็บออมในวันข้างหน้า โดยสอนให้ลูกๆ รู้จักเก็บเล็กผสมน้อย หยอดกระปุกออมสินวันละบาทสองบาท หลายวันก็ได้หลายบาท และเมื่อหยอดจนเต็มกระปุก ก็จะพาไปเปิดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายในวันข้างหน้า

แต่ที่น่าแปลกใจคือ เมื่อเราโตขึ้น ทำงานได้เงินเดือนแล้ว กลับไม่ค่อยมีใครคิดออมเงินไว้เพื่อวันข้างหน้ายามเข้าสู่วัยเกษียณที่ไม่มีรายได้แล้วกันเลย

คุณทราบมั้ยว่า จากสถิติแล้วในคนหนุ่มสาวทุกๆ 100 คน จะพบตัวเองเมื่อย่างเข้าสู่วัยเกษียณว่า 1 คนมีฐานะร่ำรวย 4 คนมีอิสระทางการเงิน ไม่เป็นหนี้เป็นสินใคร สามารถเลี้ยงตัวเองได้ 5 คนยังคงต้องทำงานหนัก 54 คนต้องพึ่งพาลูกหลาน และอีก 36 คนจากไปก่อนเวลาอันสมควร

ถามว่าคุณอยากเป็นแบบไหนใน 100 คนนี้ เชื่อว่าคำตอบคงออกมาคล้ายๆ กัน คงไม่มีใครอยากลำบากตอนแก่ อย่างน้อยติด 1 ใน 4 คนก็ยังดี เพราะคนส่วนใหญ่รู้สึกคล้ายๆ กัน คือ ไม่จำเป็นต้องร่ำรวยมากนัก ขอเพียงพอมีพอกิน ไม่เป็นหนี้เป็นสินใครก็พอ

วัยเกษียณดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนที่อายุยังไม่ถึง 40 แต่ถ้าจะคิดถึงชีวิตหลังเกษียณตอนย่างเข้าวัย 40 ก็คงทำให้คุณทั้งหลายต้องเหนื่อยกันเยอะหน่อย หรือบางคนอาจจะพลาดไปเลย ถ้าบังเอิญมีปัญหาสุขภาพ โอกาสในการหาเงินก็จะน้อยลงไปด้วย

ดังนั้น ถ้าให้แนะนำคือ ทุกท่านควรจะคิดถึงวัยเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะโอกาสในการเก็บเงินยังมีมาก การเตรียมเงินก้อนสำหรับวัยเกษียณนั้น ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า คุณต้องการเงินก้อนโตเท่าไร ปัจจุบันการแพทย์เจริญก้าวหน้าขึ้น คนไทยอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้น ชายไทยอายุเฉลี่ย 74 ปี ขณะที่ผู้หญิงอายุเฉลี่ย 79 ปี ลองคิดดูว่า ถ้าเราต้องการเกษียณที่อายุ 55 ปี เราต้องใช้ชีวิตหลังเกษียณอยู่อีก 19 ปีถ้าเป็นผู้ชาย และ 24 ปีถ้าเป็นผู้หญิง หากอยู่โดยไม่มีรายได้ แค่คิดง่ายๆ ว่าต่อเดือนหลังเกษียณใช้เงินเดือนละ 2 หมื่นบาท เงินก้อนที่เราต้องเก็บก็คือ 4.56 ล้านบาทสำหรับผู้ชาย และ 5.76 ล้านบาทสำหรับผู้หญิง

แต่ตามทฤษฎีแล้วผู้รู้กล่าวว่า ถ้าจะให้คุณภาพชีวิตดีในวัยเกษียณ เงินที่มีไว้ใช้ต้อง ไม่น้อยกว่า 50% ของเงินเดือนเดือนสุดท้ายที่เราได้รับ ก็ลองคำนวณกันดูละกัน เหลือเวลาทำงานอีกกี่ปีกว่าจะเกษียณ และควรเก็บเงินเดือนละเท่าไรถึงจะพอใช้

ที่สำคัญอย่าตามใจตัวเอง เมื่อทราบว่าต้องเก็บเท่าไร หักเงินส่วนที่ต้องเก็บออกก่อน หลังจากนั้นเหลือเท่าไรจึงเป็นค่าใช้จ่าย พูดง่ายๆ คือต้องประหยัด ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงไป หรือหารายได้เพิ่มมากขึ้น นึกเสียว่าลำบากตอนนี้ ดีกว่าลำบากตอนแก่ หรืออาจยืดเวลาเกษียณให้ช้าลงจาก 55 เป็น 60 ปี ก็ต้องขึ้นอยู่กับสุขภาพด้วยว่าเป็นใจหรือเปล่า

แล้วทำอย่างไรให้เงินออมได้ผลตอบแทนสูงๆ จะได้บรรลุเป้าหมายเร็วขึ้น ลำพังฝากธนาคารอย่างเดียวคงงอกช้า หนำซ้ำยังเจอพิษเงินเฟ้อเข้าไปอีกยิ่งไปกันใหญ่ ถ้าอย่างนั้น ควรต้องแบ่งเงินไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล ทองคำ ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ

ควรเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ ตั้งแต่วันนี้ ยามชราจะได้อุ่นใจ จะได้ไม่ต้องเป็นภาระลูกหลาน และใช้ชีวิตวัยเกษียณอย่างมีความสุขไงล่ะ ที่สำคัญต้องมีสุขภาพที่ดีด้วยนะ