เรื่องเงิน... มองแง่ร้ายมั่งก็ได้นะ
โดย...มงคล ลุสัมฤทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวางแผนและบริหารจัดการเงินส่วนบุคคล
โดย...มงคล ลุสัมฤทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวางแผนและบริหารจัดการเงินส่วนบุคคล
เรื่องหลายๆ เรื่องในชีวิต คุณต้องเคยถูกบอก ถูกสอนให้คิดบวกใช่ไหมครับ แต่เรื่องการเงินผมไม่แนะนำให้คุณคิดบวกนะครับ อย่างเรื่องวางแผนการเงิน เช่น วางแผนเกษียณระหว่างวางแผนโดยคาดหวังว่าจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 15% กับคาดหวังว่าได้ 8% ผลลัพธ์ต่างกันเยอะนะครับ
เช่น คุณวางแผนที่จะมีเงินยามเกษียณ 20 ล้านบาท ถ้าตอนนี้คุณอายุ 40 ปี คุณกะจะเกษียณที่อายุ 60 ปี ถ้าคาดหวังผลตอบแทน 15% แค่คุณออมเงินปีละ 169,765 บาท ก็เข้าเป้าแล้ว
แต่ถ้าคุณคาดหวังผลตอบแทน 8% คุณต้องออมเงินเพิ่มเป็น 404,670 บาท คุณถึงจะเข้าเป้า
อ้าว แล้วจะใช้ตัวผลตอบแทนตัวไหนดีล่ะ
ผมแนะนำเลยนะครับสำหรับผู้ที่จะวางแผนการเงินเอง คาดหวังตัวเลขน้อยๆ เถอะครับ
หากคุณไปคาดหวัง 15% แล้วคุณก็เชื่อว่าจะได้ 15% คุณเก็บเงินปีละ 169,765 บาทมาตลอด แต่ถ้าไม่ได้ตามนั้น เช่น เหลือ 8% คุณจะเหลือเงิน ณ วันเกษียณเพียง 8,390,282 บาท อดเกษียณเลยนะ แล้วจะย้อนเวลามาแก้ตัวอะไรก็ไม่ได้ด้วยนะครับ
แต่ถ้าคุณคาดหวังแค่ 8% แล้วคุณก็เก็บเงินปีละ 404,670 บาท ถึงเวลาจริงๆ คุณได้มากกว่าที่คาดก็ยิ่งดี คุณอาจจะเกษียณเร็วขึ้นหรือมีเงินมากขึ้น ณ วันเกษียณ มันปลอดภัยกว่าเยอะเลยใช่ไหมครับ
และผมขอฝากคนที่ทำงานวางแผนการเงินด้วยนะครับ อย่ามองในแง่บวกนักเลย เพราะถ้าถึงเวลาไม่ได้ตามนั้น อนาคตลูกค้าคุณดับวูบเลยนะครับ และคุณจะโดนด่าแน่ๆ ผมบอกได้เลย
เรื่องการเงินอื่นๆ เหมือนกันครับ ต้องมองเผื่อในทางร้ายก่อนเสมอ เช่น หากลูกยังเรียนไม่จบ แล้วผู้ปกครองเป็นอะไรไปก่อนล่ะ
หากตอนแก่ แล้วลูกไม่เลี้ยงล่ะ
หากเจ็บป่วยขึ้นมา แล้วต้องใช้เงินรักษาก้อนใหญ่ล่ะ
หากเงินที่ลงทุนไปเสียหาย จะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายล่ะ
ต้องคิดเผื่อในทางร้ายแล้วหาทางป้องกันไว้ก่อน ถ้าไม่เป็นไปตามที่คุณกังวล แต่คุณเตรียมเงินไว้แล้วก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นไปตามที่คุณกังวล แต่คุณไม่ได้เตรียมเงินไว้ ก็คงยุ่งแน่ๆ
วางแผนการเงินเป็นการคาดหวังในอนาคต ดังนั้นคาดหวังทางร้าย หรือคิดลบไว้ก่อน ชีวิตของคุณและผู้วางแผนของคุณจะปลอดภัยครับ