อะไรสำคัญที่สุดในการเลือกกองทุน?

โดย...หมอนัท Fund Clinic

สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน กลับมาพบกันทุกๆ เดือนในคอลัมน์ Fund Clinic แห่งนี้นะครับ ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยกลับขึ้นมาเป็นบวกในระยะนี้ ทำให้ดูเหมือนว่าตลาดการลงทุนจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากผลตอบแทนที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดจึงทำให้ใครหลายๆ คนสนใจการลงทุนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่ลงทุนอยู่แล้ว แต่อาจจะเพิ่งเริ่มต้น และคนที่ไม่เคยลงทุนมาก่อนก็ตามทีครับ

นอกจากนี้ ผมเริ่มที่จะมีคำถามมาหาผมในเพจคลินิกกองทุนมากขึ้นไปด้วย แต่จะแตกต่างจากสมัยก่อนที่คนไม่ค่อยจะรู้จักเรื่องกองทุนรวมเสียเท่าไร โดยหลังๆ ผมเริ่มเห็นคำถามที่เริ่มจะยากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นคำถามที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดพอร์ตการลงทุนที่เกี่ยวกับการปรับสัดส่วนอย่างไรให้เหมาะสม หรือว่าการจับจังหวะการลงทุนว่าควรจะลงทุนกับสินทรัพย์อะไรดี

แต่ยังมีคำถามหนึ่งที่เป็นคำถามยอดฮิต และไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย นั่นก็คือ “ช่วงนี้ลงทุนกับกองทุนไหนดี” ที่ดูเหมือนประหนึ่งเป็นการรอคำตอบจากสำนักทำนาย หรือว่าพยากรณ์หวยที่ไหนสักแห่ง ซึ่งผู้เริ่มต้นส่วนใหญ่อยากได้เส้นทางลัดที่จะบอกว่าไปทางไหนจึงจะมั่งคั่งได้

แต่ในความเป็นจริงนั้น กองทุนที่ดีที่สุด ไม่ได้มีอยู่จริงๆ ทั้งนี้เนื่องจากว่ากองทุนแต่ละกองทุนจะพลัดกันเป็นที่ 1 อยู่ตลอดเวลา ไม่มีกองทุนไหนที่จะดีที่สุดไปเรื่อยๆ ดังนั้นเวลาที่เราลงทุน เราจะเลือกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอมากกว่าที่จะให้ผลตอบแทนที่สูงเพียงอย่างเดียว เพราะว่ากองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงๆ อาจจะเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น เป็นจังหวะของหุ้นตัวนั้นๆ ที่บังเอิญปรับสูงขึ้นอย่างไม่ค่อยมีเหตุมีผลในเวลาสั้นๆ

โดยส่วนใหญ่ เวลาที่ผมอธิบายวิธีการเลือกกองทุนให้กับนักลงทุนที่ถามคำถามว่า “กองทุนไหนดี” นี้เข้ามา ผมจะให้หลักการการเลือกกองทุนที่ดีไปเพื่อทำให้นักลงทุนได้ลองเลือกกองทุนด้วยตนเองดู โดยผมจะใช้หลักเกณฑ์อยู่ 6 อย่าง ในการคัดเลือก นั่นก็คือ

1.ผลตอบแทนย้อนหลัง 3-5 ปีนั้น ต้องสม่ำเสมอ

2.ความเสี่ยงไม่สูง หรือว่าต่ำกว่ากองทุนประเภทเดียวกัน

3.เข้าใจกองทุนว่าลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใด ความเสี่ยงสูงแค่ไหนแนวโน้มระยะยาวเป็นอย่างไร

4.รู้จักสไตล์การลงทุน หรือเข้าใจ Investment Process ของกองทุนเป็นอย่างดี

5.ค่าธรรมเนียมไม่แพง

6.รู้จักผู้จัดการกองทุนและ/หรือทีมบริหารกองทุน

ด้วยหลัก 6 ข้อนี้ ผมเชื่อว่าถ้าเราตรวจสอบครบทุกแง่มุมแล้วละก็ จะได้กองทุนที่ดี และเหมาะกับการลงทุนระยะยาวแน่ๆ ครับ แต่ประเด็นของบทความนี้จะเจาะลึกลงไปอีกตรงที่ว่า แล้วใน 6 ข้อนี้ มีอะไรที่สำคัญที่สุดอยู่กันแน่

จากประสบการณ์ในการลงทุนกับกองทุนรวมของผมที่มีประเด็นสำคํญที่สุดของการจัดการการลงทุน ก็คือ Investment Process ของแต่ละกองทุนครับ หรือพูดง่ายๆ ว่ากระบวนการในการเลือกสินทรัพย์เพื่อการลงทุนนั่นเองครับ

โดยแต่ละกองทุนจะมีแนวคิดการลงทุนที่ไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะดูแล้วอาจจะมีคล้ายกัน แต่ผมรับรองว่าแต่ละกองทุนจะไม่มีทางเหมือนกันอย่างแน่นอน

ยกตัวอย่างเช่น บางกองทุนอาจจะเลือกหุ้นด้วยการดูแนวโน้มการลงทุนจากสภาพเศรษฐกิจ บางกองทุนอาจจะเน้นการจับจังหวะเข้าลงทุนกับหุ้นที่ได้คัดเลือกมาแล้ว หรือว่าบางกองทุนเองก็จะเน้นใช้หลักคัดเลือกหุ้นพื้นฐานดีเป็นหลัก ส่วนการซื้อขายก็เน้นที่ซื้อด้วยราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าแท้จริงของหุ้นตัวนั้นๆ ครับ

แต่การคัดเลือกกองทุนจากแนวคิดการลงทุนของแต่ละกองทุนนั้น ก็ต้องมาควบคู่กับผลตอบแทนย้อนหลัง หรือผลงานที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าแนวคิดของกองทุนนั้นให้ผลตอบแทนในระยะยาวได้ดี และสม่ำเสมอต่อเนื่องหลายปีด้วย

เนื่องจากผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจะเป็นตัวที่ยืนยันว่า กระบวนการคิดในการลงทุนของกองทุนนั้นๆ ได้ผลที่ดี ถูกต้องครับ หากว่าวันใดวันหนึ่งเกิดวิกฤตขึ้นมา ถึงแม้ว่าผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนจะลดลงก็ตาม แต่หากแนวคิดที่ดีในการลงทุนยังคงเป็นแบบเดิม ในวันที่ตลาดหุ้นฟื้นตัวจากวิกฤต ผมเชื่อว่ากองทุนเราซื้อไว้จะปรับตัวกลับขึ้นมาได้อย่างไม่ยากเย็นครับ

และด้วยวิธีการคัดเลือกกองทุนสไตล์คลินิกกองทุนนี้ ผมคิดว่าน่าจะทำให้นักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุนกับกองทุนนั้นได้นำกลับไปทดลอง หรือทำได้ลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนมากขึ้น เพื่อที่จะตามหากองทุนที่มีกระบวนการการลงทุน หรือว่ามีแนวคิดการลงทุนที่ดีครับ

ผมหวังว่านักลงทุนทุกท่านจะประสบความสำเร็จ และโชคดีในการลงทุนนะครับ วันนี้ลาไปก่อน แล้วพบกันครั้งหน้า สวัสดีครับ