posttoday

จัดพอร์ตเตรียมเกษียณ

27 ตุลาคม 2558

การเตรียมเกษียณนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องรออีก 4-5 ปี จึงจะถึงวัย แต่การเตรียมเกษียณที่ดีให้คิดไว้เลยตั้งแต่วัยเริ่มต้นทำงาน เพราะยิ่งมีเวลามากเท่าไหร่ เราก็จะมีเวลาคิดวางแผน และเริ่มค่อยๆ เพิ่มเงินในบัญชีให้มากขึ้นเท่านั้น

โดย...Ratthaporn Kumhom

จัดพอร์ต เตรียม เกษียณ
การเตรียมเกษียณนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องรออีก 4-5 ปี จึงจะถึงวัย แต่การเตรียมเกษียณที่ดีให้คิดไว้เลยตั้งแต่วัยเริ่มต้นทำงาน เพราะยิ่งมีเวลามากเท่าไหร่ เราก็จะมีเวลาคิดวางแผน และเริ่มค่อยๆ เพิ่มเงินในบัญชีให้มากขึ้นเท่านั้น

การลงทุนที่นิยมกัน ก็คือการซื้อกองทุน ทั้ง LTF และ RMF ซึ่งมักจะมาคิดเอาตอนช่วงปลายปีนี่เสียด้วย เพราะหวังผลขั้นต้นจากการนำไปลดหย่อนภาษี แต่จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องมากระจุกกันอยู่ช่วงนี้ก็ได้ เราสามารถเข้าซื้อกองทุนได้ตลอดปี ดีไม่ดีแห่ซื้อกันช่วงนี้คนก็เยอะ (เพราะคิดแบบเดียวกัน) พนักงานแต่ละกองทุนก็หัวหมุนในการให้บริการ

สำหรับการซื้อกองทุน LTF และ RMF นั้น มักเป็นในกลุ่มคนที่ชอบวางแผน เพราะเป็นเรื่องของการลงทุนระยะยาว ซึ่งในความยาวของการลงทุนทั้งสองแบบนี้ LTF ว่ายาวแล้ว คือเมื่อซื้อมาแล้วจะขายได้ภายใน 5 ปีปฏิทิน แต่ RMF นี่เรียกว่ายาวยิ่งกว่ายาว คือจะขายได้ก็ต่อเมื่อผู้ซื้อถือครองจนถึงอายุ 55 ปี และถือครองมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี RMF จึงมักเป็นแหล่งกองทุนที่มองไว้สำหรับตอนเกษียณ

แล้วจะเลือกองทุน RMF แบบไหน

1.กองทุน RMF ที่เป็นกองทุนหุ้นต่างประเทศ

กองทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนกลุ่ม Silver Age ที่เน้นการลงทุนในกลุ่มของผู้สูงอายุที่เริ่มเกษียณ และมีกำลังซื้อสูงในต่างประเทศ และเรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ เพราะผู้คนกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพหลังเกษียณ แต่กองทุนนี้ก็มีความเสี่ยงและความผันผวนระยะสั้น ต้องเน้นให้ลงทุนระยะยาวๆ


2.กองทุน RMF ที่เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์แบบ Fund of Fund

ถึงจะดูว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีข่าวเรื่องการชะลอตัว แต่การเลือกลงทุนกับกองทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น ในระยะยาวจะได้ผลตอบแทนที่ดีพอสมควร และความผันผวนไม่ได้มีมากเท่าสถานการณ์ที่เห็น เพราะการขึ้นลงของแต่ละภาคเศรษฐกิจนั้นย่อมมีเป็นธรรมดา แต่ถ้ามองในระยาวแล้วละก็ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ยังถือว่ามีผลการตอบแทนที่สม่ำเสมอ


3.กองทุนRMFตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว

เป็นการลงทุนที่เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงสูงไม่ได้ หรือคนที่ใกล้จะเกษียณมากขึ้น ซึ่งสามารถนำเอากองทุนตราสารหนี้เหล่านี้มาเฉลี่ยความเสี่ยงจากการลงทุนในกองทุนหุ้น RMF ได้ เพื่อที่จะได้มีความเสี่ยงโดยรวมไม่สูงเกินไป

นอกจากนี้ กองทุนผสมบางประเภทก็น่าสนใจในการลงทุนระยะยาว เช่น 1.กองทุน RMF แบบ Flexible Fund ที่มีการปรับสัดส่วนตราสารหนี้และหุ้นให้นักลงทุนอยู่ตลอดเวลา 2.กองทุน RMF ที่มีการปรับสัดส่วนไปยังสินทรัพย์อื่นๆ ได้อย่างอิสระ เช่น กองทุนแบบ All Asset Allocation ซึ่งจะช่วยให้ความเสี่ยงไม่สูงมากเกินไปที่สำคัญการลงทุนในกองทุนก็ยังมีความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงนั้นเราก็ต้องศึกษา ศึกษา และศึกษา เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด