รู้หรือไม่ Visa กับ MasterCard คืออะไร ต่างกันอย่างไร?

เคยรู้ไม่ มีคนถามคุณว่า ระหว่าง Visa กับ MasterCard ที่อยู่บนเจ้าบัตรเครดิตใบเล็กๆ ในกระเป๋าสตางค์คุณเนี่ย มันต่างกันอย่างไร ซึ่งหลายๆ คนก็มักจะได้คำตอบแค่ว่า มันเป็นผู้ให้บริการการใช้บัตรเครดิตสองเจ้ายักษ์ใหญ่ แต่ก็ไม่รู้หรอกว่ามันต่างกันอย่างไรบ้าง วันนี้ MoneyGuru.co.th จะมาบอกว่าคำตอบนั้นถูกหรือไม่? จริงๆ แล้ว Visa กับ MasterCard ต่างกันอย่างไร มาดูกันเลย

มันคืออะไร?
เรามารู้กันก่อนว่า Visa MasterCard มันคืออะไร? มันคือเครือข่ายให้บริการการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต  นั่นหมายความว่า Visa กับ MasterCard ไม่ใช่ผู้ที่ออกบัตรเครดิต หรือกำหนดเงื่อนไขบัตรเครดิตกับคุณ นั่นเป็นหน้าที่ของธนาคารหรือสถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิต แต่สำหรับเครื่อข่ายยักษ์ใหญ่อย่างสองเจ้านี้นั้น จะทำเงินในทุกๆ ครั้งที่คุณรูดบัตรเครดิตนั่นเอง

เพราะฉะนั้น ตัวที่จะบ่งบอกความแตกต่างของบัตรเครดิตจริงๆ ไม่ใช่ว่าเป็น MasterCard หรือ Visa แต่เป็นบัตรของธนาคารอะไรมากกว่า เพราะธนาคารจะเป็นตัวกำหนดเองทั้งหมด ในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย วงเงิน โปรโมชั่น สิทธิพิเศษ การแลกของรางวัล การแลกแอร์ไมล์ เป็นต้น ส่วนฟังก์ชั่นหลักๆ ที่บรรดาเครือช่ายเหล่านี้ ที่ไม่ใช่แค่ Visa กับ MasterCard แต่รวมถึง JCB Unionpay AmericanExpress มีเหมือนๆ กันคือ ในเรื่องของ

มีตรงไหนแตกต่างกันบ้าง ระหว่างเครือข่ายด้วยกัน?
แน่นอนว่าหากทุกเครือข่ายเหมือนกันหมด คงไม่มีการแข่งขันเกิดขึ้น แต่จริงๆ แล้วมี และมากเสียด้วย ซึ่งการแข่งขันเพื่อเรียกลูกค้านั้น มักจะอยู่ที่สิทธิพิเศษนอกเหนือที่ธนาคารจัดหาให้ ซึ่งหลายๆ คนมักจะไม่รู้ นั่นคือสาเหตุให้ทำไมเราจึงเห็นบางบัตรเป็น Visa ธรรมดา ที่เรียกว่า Visa Classic ในขณะที่บัตรเครดิตที่หรูขึ้นมาอีกระดับจะเป็น Visa Gold, Visa Platinum, Visa Signature และ Visa Infinite ซึ่งค่าธรรมเนียมของเครือข่ายวีซ่าของบัตรเหล่าที่เก็บจากธนาคารต่างกัน เพราะมีสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า และต้องการแข่งขันกับฝั่งของ MasterCard ที่ก็มีความแตกต่างของบัตรเครดิตแต่ละระดับ เช่น MasterCard Standard, Gold, Titanium เป็นต้น

ทั้งนี้ ความต่างระหว่างเครือข่ายประการแรก น่าจะอยู่ที่การเข้าถึง หากดูกันจริงๆ แล้ว ในระดับโลก Visa ดูจะมีภาษีเรื่องความแพร่หลายในการให้บริการมากกว่า MasterCard อยู่เล็กน้อย ประการต่อมา คงเป็นในเรื่องของ มาตรการปกป้องผู้ถือบัตรหากการซื้อสินค้ามีปัญหา โดย MasterCard มีมาตรการคืนสินค้าได้ หากไม่ตรงกับโฆษณา โดนโกง โดยกำหนดระยะเวลาอยู่ที่ 60 วันหลังการซื้อ ในขณะที่ Visa ก็มีมาตรการนี้เช่นเดียวกัน แต่ยืดเวลาให้ถึง 90 วัน

ส่วนประการสุดท้าย คงเป็นเรื่องของการปกป้องในกรณีผู้ถือบัตรท่องเที่ยวไปในต่างแดน โดย MasterCard เสนอประกันในกรณีคุณยกเลิกทริปที่คุณวางแผนจะท่องเที่ยว ในขณะที่ บัตร Visa เสนอการประกันอุบัติเหตุและทุพพลภาพให้ด้วย  รวมไปถึงประกันอุบัติเหตุรถยนต์ในกรณีที่คุณเช่ารถอีกด้วย ซึ่งเมื่อดูละเอียดๆ แล้วดูเหมือนว่า Visa จะมีภาษีเหนือกว่าเล็กน้อยอีกเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว เวลาสมัครบัตรส่วนใหญ่ ก็มักดูที่โปรโมชั่น และสิทธิพิเศษของธนาคาร หรือผู้ให้บริการบัตรเครดิตมากกว่าเป็นหลัก ซึ่งครั้งหน้า หากคุณต้องการเลือกบัตรเครดิต และตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอา Visa หรือ MasterCard ก็ขอให้บทความนี้มีประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย