ท่องเที่ยวสบายใจ ต้องมีประกันภัยเดินทาง

วัทธิกร กิจจาวิจิตร AFPT™ Assistant Wealth Manager ธนาคารทิสโก้ 

ช่วงใกล้ปลายปีหลายท่านน่าจะเริ่มวางแผนการพักผ่อน เริ่มทำเช็กลิสต์รายชื่อสิ่งของที่อยากได้เพื่อเป็นรางวัลให้กับตัวเองหลังจากทำงานหนักมาตลอดทั้งปี สิ่งหนึ่งที่เป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ คือ การท่องเที่ยว

ทั้งนี้ สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เผยแพร่ข้อมูลที่คนไทยเดินทางออกไปต่างประเทศปี 2560 มีจำนวน 8.79 ล้านคน หรือคิดเป็นกว่า 12% ของประชากรไทย และคาดว่าอัตราการเติบโตจะสูงขึ้นเฉลี่ย 7-8 % จากสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ต้นทุนการเดินทางที่ถูกลงจากสายการบินต้นทุนต่ำ และการยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวให้กับคนไทยในบางประเทศ เช่น ฮ่องกง เกาหลี และไต้หวัน

การจองตั๋วเครื่องบินผ่านบัตรเครดิตโดยปกติหากใช้บัตรเครดิตในการซื้อตั๋วเครื่องบินจะได้รับประกันการเดินทางที่เป็นสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ถือบัตรนั้นๆ ด้วย ซึ่งวงเงินของการประกันจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของบัตรเครดิต ทำให้หลายท่านคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อประกันการเดินทางเพิ่มเติมอีก แต่รู้หรือไม่ว่าประกันดังกล่าวจะคุ้มครองเฉพาะกรณีเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว และการเสียชีวิตจะคุ้มครองก็ต่อเมื่อผู้เอาประกันภัยโดยสารอยู่บนเครื่องบินแล้วเท่านั้น นั่นจึงกลับไปยังคำถามของจุดเริ่มต้นที่ว่าประกันการเดินทางจากบัตรเครดิตเพียงพอแล้วหรือ?

หากคำตอบคือเพียงพอแล้ว ขอให้พิจารณาต่อไปอีกว่าหากเดินทางไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศแล้วต้องเข้ารักษาพยาบาล โดยเฉลี่ยแล้วค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานดีของประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจสูงกว่าคืนละ 2.7 หมื่นบาท

ในกรณีของประเทศญี่ปุ่นหากมีการเจ็บป่วยบางประเภท ไม่สามารถซื้อยาตามร้านขายยาได้เอง ต้องมีใบวินิจฉัยจากแพทย์ก่อนจึงจะซื้อได้
ค่าของการออกใบรับรองแพทย์ดังกล่าวจะอยู่ที่หลักหมื่นบาท ความคุ้มครองที่ไม่ครอบคลุมเหล่านี้เอง ทำให้ประกันการเดินทางเป็นสิ่งที่จำเป็น จึงจำเป็นต้องทำความรู้จักประกันการเดินทาง เพื่อที่จะสามารถเลือกซื้อแผนประกันที่มีความคุ้มค่า ตอบโจทย์กับแผนการเดินทางของเรามากที่สุด

การเลือกประกันการเดินทางต้องกำหนดวัตถุประสงค์ที่ต้องการเป็นอันดับแรก เช่น บางท่านต้องการการคุ้มครองสัมภาระ บางท่านต้องการค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งบริษัทที่รับประกันแต่ละที่จะมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันเล็กน้อย และในแบบของบริษัทรับประกันภัยเดียวกันโดยจะมีให้เลือกอีกประมาณ 3-4 แบบตามมูลค่าความคุ้มครอง (คุ้มครองมูลค่าสูง ก็จะมีค่าเบี้ยสูงกว่า หรือจำนวนวันเดินทางที่นานกว่าจะมีค่าเบี้ยแพงกว่า) เมื่อเลือกแบบได้แล้ว ก็เพียงลงทะเบียน กรอกข้อมูลประเทศที่ต้องการไป วันที่เดินทาง และยืนยันข้อมูลส่วนบุคคล จากนั้นเพียงชำระเงินก็ถือว่าเป็นการเสร็จสมบูรณ์

ประเภทของประกันการเดินทางจะแบ่งออกเป็น

1.ประเภทรายเที่ยว สามารถเลือกซื้อได้ตามเที่ยวของการเดินทาง เช่น ไป-กลับภายใน 3 วัน หรือ 5 วัน โดยสามารถเลือกได้ตามเวลาที่ออกเดินทางไปต่างประเทศจริง (ไม่มีกำหนดขั้นต่ำเรื่องจำนวนวันการเดินทาง)

2.ประเภทรายปี หากซื้อประกันการเดินทางแบบรายปีก็จะได้รับความคุ้มครองในทุกรอบๆ ของการเดินทางโดยแต่ละการเดินทางต้องมีความยาวต่อเนื่องไม่เกิน 90 วัน หรือบางที่จะกำหนดความยาวต่อเนื่องได้มากถึง 120 วัน ซึ่งจะเหมาะกับคนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย

ความคุ้มครองของประกันการเดินทางจะโดดเด่นเรื่องของค่ารักษาพยาบาลและการคุ้มครองสัมภาระ

ค่ารักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นในกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดอาการเจ็บป่วย (ยกเว้นโรคประจำตัว) ประกันการเดินทางจะคุ้มครองเริ่มต้นตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้านบาท แล้วแต่แผนประกันการเดินทางที่เลือก ค่ารักษาพยาบาลจะรวมถึงการเคลื่อนย้ายเพื่อการรักษาฉุกเฉิน หรือเคลื่อนย้ายกลับประเทศ และหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต รวมถึงความคุ้มครองในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการส่งศพกลับประเทศ

นอกจากนี้ ในบางบริษัทประกันภัยยังมีผลประโยชน์เรื่องค่าทำฟันในต่างประเทศให้นอกเหนือจากค่ารักษาพยาบาลตามปกติ หรือแม้แต่กีฬาเสี่ยงภัย หรือการขอวีซ่าเชงเก้น ให้ผู้เอาประกันภัยได้เลือกตามความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้เอาประกันอีกด้วย

ผู้ช่วยในระหว่างการเดินทางทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าเดินทางไปไหนก็สามารถโทรเข้าฮอตไลน์ของแต่ละบริษัทประกันเพื่อขอความช่วยเหลือได้ในทุกเรื่อง

คุ้มครองสัมภาระและทรัพย์สิน รวมถึงเอกสารสำคัญในการเดินทางแล้วแต่แผนประกัน ซึ่งจะคุ้มครองอยู่ที่หลักหมื่นบาท รวมถึงมีความคุ้มครองความเสียหาย หรือความสูญเสียของเงินส่วนตัว และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ขึ้นอยู่กับแผนประกันว่าจะมีความคุ้มครองดังกล่าวให้หรือไม่

คุ้มครองหากเกิดปัญหาที่ทำให้การเดินทางไม่ราบรื่นรวมถึงการลดจำนวนวันที่เดินทาง เช่น เที่ยวบินล่าช้า(อย่างต่ำ 6 ชั่วโมงติดต่อกัน) เที่ยวบินยกเลิก กระเป๋าเดินทางล่าช้า ความสูญเสียของทรัพย์สินที่อยู่ในกระเป๋าเดินทาง สามารถเคลมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ครับ ตราบเท่าที่ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดของสายการบิน

ทั้งนี้ บริษัทประกันจะมีข้อยกเว้นสำหรับการเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อัฟกานิสถาน อิรัก อิสราเอล ลิเบีย เกาหลีเหนือ ปากีสถาน ปาเลสไตน์ ซีเรีย อิหร่าน และเนปาล (ยกเว้นเฉพาะการไต่หน้าผาและการปีนเขา) รวมถึงประเทศที่มีสงครามการเมือง การจลาจล การประกาศกฎอัยการศึก

โดยปกติประกันการเดินทางจะมีค่าเบี้ยประกันภัยที่ไม่สูง มีตั้งแต่ระดับราคาประมาณ 200 บาท ไปจนถึงประมาณ 1,000 บาท ในแบบประเภทรายเที่ยว ซึ่งความถูกหรือแพงของเบี้ยขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ที่บริษัทเอาประกันจ่ายให้กับผู้เอาประกัน รวมถึงความคุ้มครองบางประเภทที่เพิ่มเติมเข้ามา เช่น ประกันความสูญเสียของเงินส่วนตัว เป็นต้น

จะเห็นว่าค่าเบี้ยของประกันการเดินทางจะค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับสิ่งที่ผู้เอาประกันจะได้ ประกันการเดินทางจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามไปในทุกๆ การเดินทาง เนื่องจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ หากเราสามารถปิดช่องความเสี่ยงไว้ได้แล้ว ก็สามารถไปสนุกกับการการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องคอยกังวลกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่มักจะมีมูลค่าความเสียหายสูง