posttoday

ซื้อขายกองทุนอย่างไรให้ประหยัดค่าธรรมเนียม

18 กรกฎาคม 2561

สวัสดีครับ กลับมาพบกันกับผมหมอนัทอีกครั้งในคอลัมน์ Fund Clinic แห่งนี้เช่นเคยครับ

โดย...หมอนัท

สวัสดีครับ กลับมาพบกันกับผมหมอนัทอีกครั้งในคอลัมน์ Fund Clinic แห่งนี้เช่นเคยครับ ในครั้งที่แล้วที่ผมเองได้เล่าให้ฟังถึงกองทุนที่สามารถจะลงทุนได้ในทุกสภาวะของตลาดหุ้น ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ตลาดผันผวนก็ตามครับ ซึ่งนั่นก็คือกองทุนอสังหาฯ นั่นเอง แต่ทั้งนี้นักลงทุนเองก็ยังคงต้องมีความระมัดระวังอยู่ดีนะครับ เนื่องจากทุกสินทรัพย์ ทุกกองทุนเองก็จะมีความเสี่ยงเฉพาะด้านที่ไม่เหมือนกันครับ ซึ่งสำหรับกองทุนอสังหาฯ สิ่งหนึ่งที่เราควรคำนึงถึงก็คือการกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความแตกต่างกัน เช่น ห้างสรรพสินค้า ออฟฟิศเช่า โรงแรม ฯลฯ นั่นเองครับ

ซึ่งในคราวนี้เราจะมาคุยกันในด้านตรงข้ามกันบ้างครับ คือถ้าหากใครที่ไม่ต้องการจะลงทุนแบบนิ่งๆ เลือกกองทุนเดียวเพื่อลงทุนในทุกๆ สถานการณ์นั้น เราจะมาดูกันครับว่า เราจะเลือกกองทุนแบบไหนเพื่อที่จะได้จับจังหวะได้เป็นอย่างดีครับ

แต่ก่อนอื่นผมคงต้องบอกว่า ด้วยพื้นฐานของสินค้าทางการเงินที่เราเรียกว่ากองทุนรวมนั้น ไม่ได้เหมาะกับการจับจังหวะแต่อย่างใดครับ เหมาะกับการลงทุนระยะยาวมากกว่า ด้วยเหตุผลดังนี้ครับ

ข้อที่ 1 คือ กองทุนโดยทั่วไปมีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย หรือที่เราเรียกกันว่า Front-End, Back-End Fee ทำให้การเข้าออกแต่ละครั้งนั้นมีต้นทุนที่ค่อนข้างจะสูงประมาณ 1-2% เลยทีเดียวครับ นั่นก็หมายความว่า หากเรามีกำไรจากการลงทุนไม่มาก เช่น เพิ่งจะได้กำไร 5% การที่สับกองทุนหรือเปลี่ยนกองทุนนั้นจะทำให้มีกำไรเหลือเพียง 3-4% เท่านั้นเอง

ข้อที่ 2 คือ กองทุนมีผู้จัดการกองทุนดูแล มีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนกับเราอยู่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องปรับพอร์ตด้วยตัวเองมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น หรือ Flexible Fund ครับ หลายต่อหลายครั้งที่ผมเจอนักลงทุนที่เห็นผลตอบแทนของกองทุนในระยะสั้นมีความผันผวนหรือขาดทุนอยู่ และทำการสับเปลี่ยนกองทุนออกจากกองทุนเดิมไป ในเวลาไม่นานกองทุนที่เพิ่งจะสับเปลี่ยนออกมาผลตอบแทนก็กลับมาดีเหมือนเดิม ทั้งนี้ก็เพราะว่าผู้จัดการกองทุนได้ปรับพอร์ตการลงทุนเป็นที่เรียบร้อย หรือว่าบางครั้งสินทรัพย์ที่เลือกลงทุนไป เริ่มทำผลตอบแทนได้ดีครับ

ดังนั้น หากนักลงทุนเอง ตัดสินใจที่จะเก็งกำไรกับกองทุนด้วยการสลับ สับเปลี่ยนกองทุนแล้วละก็ ผมคิดว่านักลงทุนเองต้องคิดให้มากๆ เลยละครับ ว่าจะทำดีหรือไม่ครับ แต่หากนักลงทุนได้คำตอบแล้วว่า “ผมจะทำ” งั้นเรามาดูด้วยกันนะครับว่ากองทุนประเภทไหนที่เราสามารถที่จะลงทุนแบบจับจังหวะเพื่อเก็งกำไรได้บ้างครับ

ซื้อขายกองทุนอย่างไรให้ประหยัดค่าธรรมเนียม

กองทุนที่ผมแนะนำหากนักลงทุนต้องการที่จะจับจังหวะซื้อขายบ่อยๆ โดยที่ต้นทุนไม่ได้สูงมากนัก นั่นก็คือกองทุนแบบ Passive Fund หรือกองทุนดัชนี ที่ผลตอบแทนของกองทุนนั้นขึ้นลงตามดัชนีอ้างอิงครับ เช่น วันนี้ดัชนีหุ้นไทยบวก 2% กองทุนแบบ Passive Fund ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นไทยก็จะบวก 2% ด้วยเช่นเดียวกันครับ

ทั้งนี้ ก็เพราะว่ากองทุน Passive Fund นั้นจะมีการลงทุนเหมือนกับดัชนีครับ โดยการเข้าไปซื้อหุ้นด้วยสัดส่วนที่เหมือนกับดัชนีเป๊ะๆ เลยนั่นเอง

ทำไมผมถึงแนะนำกองทุนประเภทนี้ นั่นก็เพราะว่ากองทุนเหล่านี้มีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างจะต่ำมากครับ บางกองทุนไม่ได้มีค่าธรรมเนียมเข้าออกเสียด้วยซ้ำ มีแค่ค่า Brokerage Fee ครับ ดังนั้นการซื้อขายบ่อยๆ ย่อมมีผลน้อยกว่าการซื้อกองทุนรวมทั่วไป (Active Fund)

อีกประเด็นก็คือ การที่ราคาหน่วยลงทุน (NAV) ของกองทุนวิ่งขึ้นลงตามภาวะตลาดนั้นก็ทำให้เราคาดการณ์ผลตอบแทนได้ดีมากขึ้น จับจังหวะได้ดีกว่าการลงทุนในกองทุนที่มีผู้จัดการกองทุนคอยปรับสัดส่วนให้กับเรา ลองดูนึกดูสิครับ หากเราจับจังหวะได้ถูกต้อง แต่ผู้จัดการกองทุนเลือกหุ้นที่ไม่ได้วิ่งขึ้นลงตามตลาด การจับจังหวะของเราอาจจะไม่ได้ผลตอบแทนที่คาดหวังก็เป็นไปได้

ผมอยากจะบอกกับนักลงทุนที่ลงทุนกับกองทุน Passive Fund ว่า ในต่างประเทศนั้น กองทุนไม่ว่าเป็น Passive Fund หรือ Active Fund นั้นได้รับความนิยมน้อยลงไปกว่าเดิมมากๆ แต่กองทุนที่ได้รับความนิยมมากขึ้น และ ณ ปัจจุบันมีสินทรัพย์โดยรวมที่มากกว่า
กองทุนทั่วไปแล้ว

โดยกองทุนเหล่านี้สามารถซื้อขายได้โดยที่ต้นไม่สูงมากนัก (ค่าธรรมเนียมซื้อขายน้อยกว่ากองทุน Passive Fund หลายเท่า) สามารถลงทุนได้แบบ Real Time คือไม่จำเป็นต้องรอราคาหน่วยลงทุน ณ สิ้นวันอย่างกองทุนธรรมดาทั่วไป รวมถึงมีประเภทให้เลือกได้อย่างหลากหลายมากกว่า นั่นก็คือกองทุน ETF นั่นเองครับ

น่าเสียดายเหลือเกินครับ หน้ากระดาษของคอลัมน์ผมหมดเพียงเท่านี้ ในครั้งหน้าผมจะมาเล่าให้ฟังถึงกอง ETF ครับ ว่ามีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมจึงเป็นที่นิยมกันในต่างประเทศครับ วันนี้ผมขอลาไปก่อน สวัสดีครับ