posttoday

พอร์ต 3 สไตล์ แบบไหนได้ ‘ใจ’ คุณ

18 เมษายน 2561

เชื่อว่าทุกคนที่ตัดสินใจเข้าลงทุนในตลาดหุ้น ซื้อหุ้น เพราะต้องการ “กำไร” และเชื่อว่าคนที่ผ่านมาเล่นหุ้น ล้วนเคย “ขาดทุน” จากการเลือกหุ้นผิด

โดย...วารุณี อินวันนา 

เชื่อว่าทุกคนที่ตัดสินใจเข้าลงทุนในตลาดหุ้น ซื้อหุ้น เพราะต้องการ “กำไร” และเชื่อว่าคนที่ผ่านมาเล่นหุ้น ล้วนเคย “ขาดทุน” จากการเลือกหุ้นผิด

สภาพตอนเดินเข้าตลาดหุ้นร่าเริงเหมือนไก่จะบิน แต่ตอนขาออกหมดเรี่ยวหมดแรงไปตามๆ กัน หรือบางคนยังไม่ออกจากตลาด แต่ก็ต้องเผชิญกับความทรมานใจ ตรอมใจ จนต้องทำใจ

ยิ่งช่วงไตรมาส 2 ที่ตลาดหุ้นซึมหนักจากสงครามการค้า สงครามซีเรีย ความเสี่ยงก็ยิ่งสูง ต้องติดตามข้อมูลกันใกล้ชิด

แต่ถ้าไม่มีเวลาวันนี้ มีรูปแบบการจัดพอร์ต 3 สไตล์ ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประกอบด้วย ไร้ใจ ใส่ใจ และอุ่นใจ ที่แค่ฟังชื่อก็รู้สึก “สนใจ” ขึ้นมาทันที นึกถึงหนังบู๊กำลังภายในของจีนไปโน่นเลย

พอร์ต 3 สไตล์นี้ ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกเบื้องต้นให้กับนักลงทุนที่ไม่มีเวลามานั่งศึกษาหุ้นแต่ละตัวอย่างละเอียด โดยมีนักวิเคราะห์ทำการคัดสรรหุ้นจำนวนหนึ่งให้เหมาะกับพอร์ตแต่ละสไตล์ไว้ให้แล้ว

นอกจากนี้ จะมีการแจ้งถึงการเปลี่ยนหุ้นในแต่ละพอร์ต ตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นฐานหุ้น สภาพการลงทุนในตลาดหุ้น ปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบหุ้นอยู่ตลอดเวลา

แต่จะลงทุนตามคำแนะนำหรือไม่ นักลงทุนมีอิสระในการตัดสินใจเอง

สิ่งที่ “ถูกใจ” ในพอร์ต 3 สไตล์นี้ เพราะมีการเปิดให้บริการมาแล้ว 9 เดือน สร้างผลตอบแทนได้อย่างน่า “พอใจ” ภายใต้ความเสี่ยงของการลงทุนที่ต้องเผชิญอยู่ทุกขณะ

เอกชัย ธาราพรทิพย์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) สรุปผลงาน 9 เดือน ในกรณีที่ทำตามคำแนะนำของนักวิเคราะห์ให้ฟังว่า

พอร์ต “ไร้ใจ” สร้างผลตอบแทนประมาณ 24% จากที่เคยขึ้นไปสูงสุด 27%

พอร์ต “ใส่ใจ” สร้างผลตอบแทน 10% จากที่เคยขึ้นไปสูงสุด 18-19%

พอร์ต “อุ่นใจ” สร้างผลตอบแทนประมาณ 12.5%

มาดูกันว่าการจัดพอร์ต 3 สไตล์ 3 ใจ เป็นอย่างไร

พอร์ต “ไร้ใจ” ความเสี่ยงในการลงทุนจัดอยู่ระดับ 10 จะมีการเข้าซื้อและขายออกเร็ว โดยจะอิงทิศทางหรือโมเมนตัมของตลาด ประกอบข้อมูลทางเทคนิค ข่าว มูลค่าการซื้อขาย แล้วนักวิเคราะห์ก็จะใช้ประสบการณ์ในการให้คำแนะนำเคาะทันทีที่เห็นแสงแรก
ส่องออกมา

หุ้นในพอร์ตนี้จะมีไม่เกิน 10 บริษัท และพื้นฐานดีเป็นหลัก มีทั้งหุ้นเล็ก หุ้นใหญ่ ทุกกลุ่ม ขึ้นอยู่กับความโดดเด่น และต้องมีสภาพคล่องดี โดย 6 เดือนย้อนหลังต้องมีวอลุ่มการซื้อ-ขายเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท/วัน

สำหรับเหตุผลที่แนะนำให้ลงทุนไม่เกิน 10 บริษัท เพราะโดยปกติคนหนึ่งคนจะสามารถติดตามหุ้นได้อย่างใกล้ชิดและตัดสินใจได้ทันสถานการณ์ที่สุดประมาณนี้ โอกาสเลือกหุ้นได้ถูกมีเพิ่มขึ้น และความเสี่ยงลดลงเพราะมีการกระจาย

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ลงทุนในปัจจุบันได้ลดจำนวนหุ้นในพอร์ต “ไร้ใจ” ลงเหลือประมาณ 3-4 บริษัทเท่านั้น   

ดูลักษณะการบริหารพอร์ต “ไร้ใจ” แล้ว น่าจะเหมาะกับนักลงทุนที่ชอบความหวือหวา หรือขาซิ่ง รับสภาพหัวใจสูบฉีดได้ดี แต่ก็กรีดกำไรได้แบบถึงใจเช่นกัน

พอร์ต “ใส่ใจ” ความเสี่ยงในการลงทุนจัดอยู่ระดับ 9 ลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี สภาพคล่องสูงเช่นเดียวกันเป้าหมายการลงทุนเป็นระยะปานกลาง การบริหารพอร์ตจะใช้เหตุผลมากขึ้น จะต้องหาเหตุผลที่ทำให้หุ้นนั้นน่าซื้อ มีการคาดการณ์ผลประกอบการและสภาพการลงทุน หากเห็นว่าข้อมูลหรือเหตุผลที่สนับสนุนเกิดการเปลี่ยน อาจก่อให้เกิดความเสี่ยง

เช่น หุ้นขึ้นมา 5% จะแนะนำให้ขาย หรือหุ้นลงไป 7% จะต้องขายเพื่อตัดขาดทุน ไม่มีการรีรอ จึงไม่ต้องมานอนน้ำตานองหน้า เพราะให้ความ “ใส่ใจ”   

พอร์ต “อุ่นใจ” ความเสี่ยงในการลงทุนอยู่ระดับ 8 เป็นการลงทุนระยะยาว ที่หวังผลตอบแทนมั่นคง สม่ำเสมอ หุ้นในพอร์ตนี้จึงเป็นหุ้นที่มีการปันผลอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวไม่หวือหวา บริษัททำธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนไม่หวือหวา มีการติดตามพื้นฐานของบริษัทอยู่ตลอดเวลา หากทิศทางของบริษัทพลิก ก็จะแนะนำให้มีการขายออก หรือถ้าหุ้นขึ้นมามากก็แนะนำให้ทำกำไร ทำให้รู้สึกมีความ “สบายใจ”

น่าเสียดายที่ไม่สามารถบอกชื่อหุ้นในแต่ละพอร์ตได้ เพราะสงวนสิทธิไว้ให้เฉพาะลูกค้าของบริษัทเท่านั้น

ขอย้ำกันให้จำ “ขึ้นใจ” ว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ แต่หากรู้วิธีบริหารความเสี่ยงให้ลดน้อยลง ทำให้โอกาสในการทำ “กำไร” เพิ่มขึ้น ก็นำความ “สุขใจ” มาให้