posttoday

8 หุ้นน่าลงทุนเดือนธ.ค.

10 ธันวาคม 2560

โดย...นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้

โดย...นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้

ปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศยังคงถ่วงบรรยากาศหุ้นไทย โดยรวมอยู่ในเดือน ธ.ค.นี้ ธนาคารกลางหลายแห่งมีกำหนดการประชุมนโยบายการเงิน โดยการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 12-13 ธ.ค. น่าจะเป็นที่จับตามากที่สุด เพราะคาดจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25-1.5%

อย่างไรก็ดี ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก เนื่องจากตลาดได้คาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้าแล้ว ส่วนการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ในวันที่ 14 ธ.ค. และ 20-21 ธ.ค. ตามลำดับ คาดทั้งสองธนาคารกลางจะคงนโยบายการเงินตามเดิม

ดัชนีหุ้นไทย (SET) ช่วงนี้มีแนวโน้มหลักคือแกว่งสร้างฐานในกรอบ 1,680-1,730 จุด หุ้นที่น่าสนใจลงทุน คือ หุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 4 จะออกมาดีที่สุดของปีนี้และโตต่อเนื่องในปีหน้า จึงแนะนำหุ้นบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) บริษัท นามยง เทอร์มินัล (NYT)

สำหรับหุ้นที่กำไรผ่านจุดต่ำไปแล้วจะเริ่มฟื้นตัวจากขยายกำลังการผลิต-กิจการในปีหน้า บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) บริษัท ไทยวา (TWPC) สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 Index ชอบบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP)

ด้านแนวรับและแนวต้านสำคัญของ SET Index เดือนนี้อยู่ที่ 1,680-1,690, 1,660 และ 1,720-1,730, 1,750-1,760 จุด ตามลำดับ

ปัจจัยต่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบในเดือน ธ.ค. คือการพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภาสหรัฐ โดยหากกฎหมายปฏิรูปภาษีสามารถผ่านวุฒิสภาได้ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.นี้ ก็น่าจะส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้น ส่วนขั้นตอนต่อไปคณะกรรมาธิการร่วมระหว่างทั้งสองสภาจะประชุมร่วมกันเพื่อรวมร่างกฎหมายทั้งสองฉบับให้เป็นฉบับเดียว

บล.ทิสโก้ มองว่ากฎหมายปฏิรูปภาษีน่าจะผ่านสภาเสร็จสิ้นได้ในไตรมาสแรกปี 2561 อาจสร้างความผิดหวังแก่ตลาดในระยะสั้น และรัฐบาลจีนจะประกาศนโยบายเศรษฐกิจของปี 2561 กลางเดือน ธ.ค. หากจีนลดเป้าเติบโตเศรษฐกิจ (จีดีพี) จาก 6.5% หรือเป้าดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจอื่นจะกดดันแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นเกิดใหม่รวมไปถึงตลาดโภคภัณฑ์

อย่างไรก็ดี มองปัจจัยในประเทศทั้งแนวโน้มการทยอยปรับเป้าจีดีพีปีนี้และปีหน้าขึ้นจากเดิมบวก 3.6% และ 3.8% เป็นบวก 3.9% และ 4.1% ตามลำดับ

การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาลที่คาดการณ์ไว้ในเดือน ธ.ค. รัฐบาลจะออกมาตรการลดหย่อนภาษีการท่องเที่ยวเมืองรอง 3-5 หมื่นล้านบาท เพื่อให้มีผลใช้ตลอดปี 2561 และมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเฟส 2 และฤดูกาลเม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ไหลเข้า คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้า 3 หมื่นล้านบาท และ 1 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ เพื่อรับกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยต่างประเทศ

ด้านหุ้นไทยวันแรกของเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,699.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.26 จุด หรือ 0.13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44,069 ล้านบาท

ทิศทางขาขึ้นของตลาดหุ้นไทยเริ่มชะลอตัวในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา โดยปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ยุติการปรับขึ้น 5 เดือนติดต่อกัน หลักมาจากการขายล็อกกำไรของต่างชาติตามที่มองไว้ ต่างชาติขายสุทธิราว 1.9 หมื่นล้านบาทในเดือน พ.ย. และการเริ่มปรับฐานลงอย่างมีนัยสำคัญของตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้