ตู้เสื้อผ้าและห้องเก็บของ ทำให้ใครร่ำรวย

โดย...ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บล.บัวหลวง

ตู้เสื้อผ้าทุกคนที่มันแน่น เต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่...ทำให้ยูนิโคล่รวย...ทำให้ซารารวย...ทำให้พ่อค้าแม่ค้าอีกหลายๆ รายร่ำรวย

ตู้รองเท้าของเราที่แน่นปั๊ก...เต็มไปด้วยรองเท้าที่เราไม่ได้ใส่...ทำให้อดิดาสรวย...ทำให้ไนกี้รวย...ทำให้พ่อค้าแม่ค้าอีกหลายๆ รายร่ำรวย

คุณรู้ไหม โจทย์ของนักขายนักการตลาดที่ผมร่ำเรียนมา ให้กลับไปสำรวจบ้านของตัวเอง

“โอกาสอยู่ที่บ้านของเรา...ลองไปดูซิว่า อะไรที่มีมากเกินไป อันนั้นไม่ใช่โอกาส...ที่เป็นโอกาส คือ ลองดูว่าอะไรที่ยังไม่มี แต่ควรมี...คุณว่าลูกค้าแต่ละคน จะซื้อเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้า ได้เพิ่มอีกเท่าไร...

ในอนาคตเมื่อที่ดินแพงขึ้น บ้านก็จะเล็กลงไปอีก...คนที่อยากอยู่ในเมืองต้องยอมอยู่ในบ้านเล็กๆ อยู่คอนโดเหมือนคนญี่ปุ่น...ชั้นวางของ ตู้ที่เก็บของ กลายเป็นสิ่งที่จำเป็น

Self Storage บ้านไม่มีที่เก็บ ก็เกิดโอกาสทางธุรกิจที่สร้างที่เก็บของนอกบ้านให้คนเช่า (แน่นอน คนไม่อยากทิ้งของ แม้ไม่ใช้ ก็ให้เขาจ่ายเงินค่าเก็บซิ)...ทำงานหนัก เพื่อซื้อของที่ไม่ได้ใช้...แล้วให้เขาจ่ายเงินเพิ่มไปหาที่เก็บขยะ...โอกาสสุดๆ เลยจริงไหม?

สินค้าในโลก มี 4 แบบ คือ

1.ใช้แล้วหมดไป เขาเรียก Consumer Product

2.ใช้แล้วเป็นขยะ เขาเรียก Products

3.ใช้แล้วเก็บแล้วมูลค่าไม่ลด (แต่ต้องดูแล) เขาเรียก Collection Product

4.ใช้แล้วเก็บมูลค่าไม่ลด เรียก Asset (สินทรัพย์)

พวกแบรนด์หรูทำสินค้าข้อ 3 กับ 4 ...วันนี้ขยับมาทำข้อ 1 กับ 2 ด้วย

พวกรายใหญ่เน้นทำสินค้า 1 กับ 2 เพราะใช้ความได้เปรียบจากขนาด...ทุนหนา ผลิตมาก ทุนต่่ำ

โจทย์วันนี้ของนักการตลาด คือ

1.ทำนายอนาคตให้ออกว่า คนจะอยู่แบบไหน...บ้านเป็นแบบไหน...เล็กหรือใหญ่...ใช้อะไร

2.คิดสินค้าและบริการเพื่อจะมาตอบโจทย์ “เติมช่องว่าง” - ตู้ว่าง ชั้นว่าง โต๊ะว่าง ที่ว่าง สมองว่าง

3.สิ่งที่เต็มอยู่แล้ว คือ จำนวนคู่แข่งที่มีในตลาด (อย่าทำสิ่งที่เต็ม เพราะนั่นคือทะเลเลือด เก่งแค่ไหนก็อาจไม่รอด เมื่อเจอรายใหญ่)

คนที่บ่นว่า ไม่มีโอกาส จริงๆ แค่เขามองผิดที่...พอมองสิ่งที่คนอื่นมอง ก็เลยไม่เห็นโอกาสเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนที่มอง...ลองสิ่งใหม่

แค่นี้โอกาสของคุณก็เปิดขึ้นแล้วครับ

เลิกบ่น แต่ให้คิดเพิ่ม ทำเพิ่ม ...ลองดู

************************* 

ภาพ...เอเอฟพี